“การรถไฟฯ” เตรียมเปิดคัดเลือกที่ปรึกษาออกแบบ “รถไฟไทย-จีน” เฟส 2 โคราช-หนองคาย วงเงิน 751 ล้านบาท คาดรู้ผลเดือนกันยายน ด้านการก่อสร้าง 3.5 กิโลเมตรแรก ช่วงกลางดง-ปางอโศก กำหนดเดดไลน์ต้องปิดจ๊อบเดือนเดียวกัน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (2 ก.ค.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงิน 751 ล้านบาท “เพื่อดำเนินการจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดงานโยธา” โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร เป็นระยะเวลาดำเนินการ 19 เดือน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 112 ล้านบาท ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ส่วนที่เหลือจำนวน 638 ล้านบาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2564 โดยเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
2.อนุมัติให้การรถไฟฯ ได้รับการยกเว้นการดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 สำหรับการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาในครั้งนี้ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับสัดส่วนการได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดินในปีแรก ที่กำหนดไว้ว่าต้องได้รับการจัดสรรไม่ต่ำกว่า 20% ของวงเงินรายจ่ายส่วนที่เป็นงบประมาณทั้งสิ้น
สำหรับการขออนุมัติการดำเนินการดังกล่าวมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายแบ่งเป็น ค่าตอบแทนบุคลากรจำนวน 506 ล้านบาท, ค่าใช้จ่ายตรง ได้แก่ ค่าใช้จ่ายสำนักงาน ค่าสำรวจ ทดสอบ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ จำนวน 195 ล้านบาท และภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 49 ล้านบาท โดยอยู่ภายในกรอบสัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่า หรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายที่กำหนดว่า ต้องไม่เกิน 8% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดสัดส่วนต่างๆ เพื่อเป็นกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562
เปิดประมูลจ้างที่ปรึกษาปลายเดือน ก.ค.
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า การรถไฟฯ คาดว่าจะเปิดประมูลว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบโครงการรถไฟไทย-จีน เฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร วงเงิน 751 ล้านบาท ด้วยวิธีคัดเลือกในปลายเดือนกรกฎาคม 2562
สำหรับเอกชนที่มีสิทธิ์ยื่นข้อเสนอในครั้งนี้ จะต้องขึ้นทะเบียนเป็นที่ปรึกษาในหมวดการขนส่งของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง โดยผู้เข้าประมูลส่วนใหญ่อาจจะจับมือกับที่ปรึกษาจีน เนื่องจากจะต้องออกแบบรถไฟความเร็วสูงให้เป็นไปตามมาตรฐานจีน
ทั้งนี้ การรถไฟฯ คาดว่าได้รายชื่อผู้ชนะการประมูลในเดือนกันยายน 2562 โดยหลังจากลงนามสัญญาแล้ว ผู้ชนะการประมูลจะมีเวลาในการออกแบบรายละเอียด 12 เดือน ขั้นตอนต่อไป การรถไฟฯ จะเสนอรายงานการศึกษาความเหมาะสมของโครงการและแบบรายละเอียดให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบเพื่อขออนุมัติงบประมาณ ก่อนเปิดประมูลหาผู้รับเหมางานโยธาที่มีกว่า 10 สัญญาต่อไป
3.5 กิโลเมตรแรก ต้องเสร็จเดือน ก.ย.
รายงานข่าวเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทยจีน เฟสที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กิโลเมตรว่า การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนเฟสที่ 1 แบ่งสัญญางานโยธาออกเป็น 14 ฉบับ
สำหรับสัญญาฉบับที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ที่มีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นผู้รับเหมา ล่าสุดยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดว่าจะต้องแล้วเสร็จไม่เกินเดือนกันยายน 2562 หรืออย่างสุดช้าไม่เกินเดือนตุลาคม 2562 เนื่องจากได้ตัดงานที่ไม่จำเป็นออกแล้วและฝ่ายจีนก็เร่งรัดงานอย่างเต็มที่ เพราะการก่อสร้างล่าช้ามามากแล้ว
สัญญาฉบับที่ 2 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ที่มีบริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล อยู่ระหว่างก่อสร้างสำนักงานและทดสอบวัสดุต้นแบบให้ได้เป็นไปตามมาตรฐานจีน เช่น เสาเข็ม เมื่อฝ่ายจีนเห็นชอบวัสดุก่อสร้างแล้ว ก็จะดำเนินการก่อสร้างตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งก็ต้องเร่งรัด เพราะสัญญาก่อสร้างมีระยะเวลาเพียง 18 เดือน
นอกจากนี้มีสัญญางานโยธาอีก 5 ฉบับ ที่อยู่ระหว่างตรวจสอบผลการประมูล และอีก 6 ฉบับที่เพิ่งนำขึ้นรับฟังความคิดเห็นบนเว็บไซต์เป็นครั้งแรก ซึ่งก็คาดว่าจะออกประกาศเชิญชวนได้เร็วที่สุดในช่วงครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคม 2562 ด้านสัญญางานโยธาฉบับสุดท้าย จะต้องหารือเรื่องรายละเอียดกับผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟความเร็วเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภาก่อน จึงเปิดประมูลได้
