Politics

‘สามมิตร’ ขู่เบี้ยวข้อตกลง เปิด ‘ข้อมูลเด็ด’ สะเทือนทั้งพปชร.

ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กำลังเข้าสู่ความแตกแยกเข้าไปทุกขณะ หลังจากส.ส.กลุ่มสามมิตร ออกมาประกาศกร้าวไม่เห็นด้วยกับการสลับชื่อโผครม.ในส่วนของกลุ่มสามมิตร โดยยืนยันจะยึดโผครม.ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้แจ้งให้ทราบไปเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ว่ากลุ่มสามมิตร โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายอย่าเบี้ยว ส.ส.ชัยนาท จะได้นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และยังเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะยังรักษาคำพูด โดยไม่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดๆ ตามที่แจ้งไว้เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา

สามมิตรแถลง 010762 190701 0025

ความร้อนแรงทางการเมืองทำให้หลายฝ่ายเริ่มออกมาวิพากวิจารณ์อย่างหนัก ถึงความไม่ลงตัวของตำแหน่งรัฐมนตรี ประกอบกับมีการเปลี่ยนเปลี่ยนโผครม.อยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนโผครม. หลายคนถูกแรงกดดันมาจากกลุ่มคนภายนอกพปชร. ซึ่งมีทั้งกลุ่มการเมืองเก่า นักธุรกิจรายใหญ่  และคนภายในพปชร.เอง แรงกดดันดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ กับกลุ่มสามมิตร  ซึ่งเกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังจากที่นายกฯรัฐมนตรีจะแจ้งให้ทราบว่ากลุ่มสามมิตรได้ตำแหน่งไหนบ้าง

แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวว่าจุดที่ทำให้กลุ่มสามมิตร ต้องลุกขึ้นมาทวงถามสิ่งที่นายกฯเคยเสนอให้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 เมื่อครั้งที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าไปรับแบบฟอร์มกรอกประวัติคุณสมบัติรัฐมนตรีใหม่ แต่นายกฯ กลับแจ้งนายสุริยะ ว่าอยู่กระทรวงอุตสาหกรรมไม่ใช่กระทรวงพลังงาน เพราะได้ยกกระทรวงพลังงานให้กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ไปแล้ว

ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย กลับไม่มีรายชื่อโผครม.อย่างที่มีการแจ้งให้ทราบไปเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 แต่กลับเอาโควตาของนายอนุชาให้กับพรรคชาติพัฒนาแทน โดยไม่ได้แจ้งสาเหตุการเปลี่ยนแปลงให้ทราบ จนสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มสามมิตร เกิดความอึมครึมอย่างหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

สามมิตรแถลง999

กระทั่งเมื่อวานนี้(1ก.ค.) กลุ่มสามมิตรนำโดยนายสมศักดิ์ นายสุริยะ นายอนุชา พร้อมด้วยสามชิกส.ส.กลุ่มสามมิตร 31 คน ได้ออกมาแถลงจุดยืน ที่จะยังคงโผครม.ตามที่นายกฯแจ้งให้ทราบไว้ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2562 พร้อมยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ หากไม่ได้รับการพิจารณา ทางกลุ่มจะหารือเพื่อแสดงจุดยืนอีกครั้ง

ขณะที่นายสิระ​ เจนจาคะ​ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ  และสมาชิกกลุ่มสามมิตร แสดงความไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ประกาศที่จะเสนอญัตติในการประชุมพรรค​ พปชร. วันที่​ 2​ กรกฎาคมนี้ เพื่อขับไล่นายสนธิรัตน์​ สนธิจิรวงศ์​ ออกจากเลขาธิการพรรค​

อย่างไรก็ดี กลุ่มสามมิตรได้เตรียมล่าชื่อเพื่อยื่นขับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ พ้นจากเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากไม่พอใจการเข้าไปมีบทบาททำให้แกนนำกลุ่มสามมิตร คือนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  ถูกสลับโผครม.จากรัฐมนตรีว่าการกรกระทรวงพลังงาน   และทำให้นายอนุชา นาคาสัย ต้องหลุดโผครม.ไป จนกระทั่งมีรายชื่อสามชิกส.ส.กลุ่มสามมิตร  31 คน มีการชื่อเข้ามา

ห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ได้ให้เจ้าหน้าที่ของพรรคพปชร.ส่งข้อความผ่านLINE แจ้งว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ที่จะเลือกกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งในการทำงาน และพร้อมทำงานในกระทรวงที่ได้รับมอบหมายหากเห็นว่าเหมาะสม  ไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และหวังว่าทุกสิ่งจะคลี่คลายไปในทางที่ดี

455380

โดยยืนยันว่าพร้อมรับฟังความเห็นต่างและเคารพเสียงประชาชนทุกคะแนนเสียง โดยเชื่อว่าขณะนี้ประชาชนอยากเห็นการเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ และเพื่อให้เกิดการทำงานที่ราบรื่น จึงเห็นว่าพรรคควรเดินหน้าและร่วมมือกันพัฒนานโยบายพัฒนาประเทศทุกด้านเพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความสบายใจและเชื่อมั่นทางการเมืองและเศรษฐกิจ

เพียงไม่กี่ชั่วโมงข้อความที่ส่งผ่าน LINE กลุ่มของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีสมาชิกถึง 405 คน เกี่ยวกับข่าวของนายสนธิรัตน์ ที่ระบุว่าเสียใจกับปัญหาความขัดแย้งในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพปชร. ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกกระทรวง ก็ถูกลบทิ้งทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่าความขัดแย้งเรื่องโผครม. หากไม่เป็นไปตามที่นายกฯแจ้งไว้เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ทราบว่ากลุ่มสามมิตร ซึ่งมีข้อมูลอยู่มากพอสมควร พร้อมที่จะนำมาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ  เป็นข้อมูลที่อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อพรรคพปชร. ทั้งพรรคก็เป็นไปได้  ถือเป็นไม้เด็ดที่จะต้องดำเนินการ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม ข้อมูลที่มีอยู่ส่งผลกระทบไปยังผู้ใหญ่แน่นอน

“ไม่ได้สร้างแรงดกดันหรือข่มขู่พรรค แต่มีข้อมูลที่อาจจะทำให้เกิดความตะลึงได้ และเป็นข้อมูลที่อาจจะส่งผลกระทบต่อพรรคได้เลย”  แหล่งข่าว ระบุ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight