นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าได้เตรียมพร้อมในการชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่มีข้อสงสัยว่า มีการถือครองหุ้นกิจการสื่อสารมวลชนว่า ไม่ได้มีความหนักใจอะไร เพราะกรณีของตนและเพื่อน ส.ส. อีก 32 คน มีความแตกต่างกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เนื่องมีประเด็นที่ว่า นายธนาธร โอนหุ้นก่อนการสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่
กรณีของตน เป็นการจดทะเบียนตามแบบฟอร์มมาตรฐานทั่วไป ที่มีวัตถุประสงค์หนึ่งข้อ ที่เปิดโอกาสให้ทำสื่อได้ แต่ว่าในส่วนของตน ไม่ได้มีการประกอบกิจการสื่อ เพราะตอนจดทะเบียน ได้แจ้งวัตถุประสงค์ว่า เป็นการทำกิจการปูนซีเมนต์ผสมเสร็จ มา 20 กว่าปีแล้ว ดังนั้นประเด็นตามเจตนารมณ์มาตรา 98 (3) ของรัฐธรรมนูญ คือ ห้ามมิให้ ส.ส. มีกิจการประเภทสื่อ เพราะจะสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง ฉะนั้นในกรณีของตนและเพื่อน ส.ส. อีก 32 คน ถึงไม่หนักใจอะไร
ส่วนคุณสมบัติของรัฐมนตรีมีความเข้มข้นกว่า โดยมาตรา 187 ได้มีการบัญญัติเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน ว่ารัฐมนตรีต้องไม่ถือหุ้นในบริษัทใดๆ เกิน 5% มีทางออกคือโอนให้กับบริษัทกลางให้เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการ หรือโอนขาย ตนมั่นใจว่า ได้ดำเนินการแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร
