นางกมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “วัน ออริจิ้น”เป็นบริษัทดูแลธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน (Recurring Income Business) ทั้งหมดให้แก่เครือออริจิ้น และเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ที่มั่นคงระยะยาวให้ออริจิ้น โดยวางเป้าหมาย 5 ปี (2561-2565) ลงทุน 2 หมื่นล้านบาทในธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน
แบ่งประเภทธุรกิจที่จะลงทุนออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่ม Accommodation เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 70% 2.กลุ่มสำนักงานให้เช่าและค้าปลีก (Office & Retail) 20% และ 3.กลุ่มธุรกิจอาหาร (Foods)10% โดยจะให้น้ำหนักกับกลุ่มธุรกิจ Accommodation 70% และอีก 2 กลุ่มที่เหลือรวมกัน 30%
“เราตั้งเป้าว่าทรัพย์สินจากการลงทุนดังกล่าวจะช่วยสร้างมูลค่าตลาดราว 3 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันช่วยสร้างยอดขาย 10,000 ล้านบาท น่าจะทำให้เราขึ้นแท่นเป็นท็อป 5 ในวงการธุรกิจโรงแรมและมิกซ์ยูส” นางกมลวรรณ กล่าว
เล็งตั้งกองรีท-เข้าตลาดฯ
นางกมลวรรณ กล่าวว่าแหล่งเงินที่ใช้ลงทุนในช่วง 3-5 ปีแรกของ “วัน ออริจิ้น” มาจาก 2 ส่วน ได้แก่ 1.เงินทุนจากออริจิ้น 2.เงินทุนจากการร่วมทุนกับพันธมิตรระดับโลก เช่น โนมูระ เรียลเอสเตท ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งมีความร่วมมือกันแล้วหลายโครงการ อาทิ โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ
ขณะเดียวกันมีแผนจะจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) รวมถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสในการระดมทุน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการขยายธุรกิจในระยะยาวด้วย
“ประเภทธุรกิจต่างๆ ภายใต้ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน จะทำให้เราเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯครบวงจร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งการทำงานและพักผ่อนของผู้บริโภคได้ลงตัว” นางกมลวรรณ กล่าว
ลุยทำเลอีอีซี-เมืองท่องเที่ยว
ด้านนางจตุพร ผิวขาว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการของวัน ออริจิ้น จะเน้นเกาะทำเลกรุงเทพฯ และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเป็น 2 ทำเลศักยภาพที่ออริจิ้น ให้ความสำคัญอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นทำเลที่มีความต้องการของผู้บริโภคที่มีศักยภาพในหลายเซ็กเมนท์
ขณะเดียวกันวางแผนเข้าไปลงทุนในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ อีกด้วย รูปแบบการพัฒนาเปิดกว้างทั้งการพัฒนาในลักษณะมิกซ์ยูส และการพัฒนาโครงการแต่ละประเภทแบบสแตนด์อโลน ขึ้นอยู่กับศักยภาพของทำเลและที่ดินแต่ละแปลง
กลยุทธ์การเติบโตจะมีทั้งการจ้างเชนระดับโลกอย่างไอเอชจี เข้ามาบริหาร การสร้างแบรนด์ของตัวเอง ตลอดจนการเข้าซื้อกิจการ ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ และความต้องการของฐานลูกค้า กลยุทธ์ทั้งหมดจะเป็นส่วนสำคัญช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง และทำให้วัน ออริจิ้น เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าภายใน 5 ปี จะพัฒนาโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ทั้งหมด 15 แห่ง ทั้งในกลุ่มลูกค้า corporate และ leisure รวมจำนวนห้องพักกว่า 4,000 ห้อง ส่วนของอาคารสำนักงานและร้านค้าอีก 10 แห่ง พื้นที่กว่า 50,000 ตร.ม.
ที่ผ่านมา บริษัทได้เซ็นสัญญาและนำแบรนด์ของเครือไอเอชจี เข้ามาบริหารโรงแรม 3 แห่ง ได้แก่ 1.สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ 2.สเตย์บริดจ์ สวีท ชลบุรี ศรีราชา และ 3.ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง โดยจะทยอยเปิดให้บริการจนครบทั้ง 3 แห่งภายในปี 2564 การใช้เชนระดับโลกจะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นแบรนด์เป็นที่รู้จักและยอมรับอยู่แล้ว
