Properties

ยักษ์ใหญ่โดดร่วมวง แรงกดดัน ‘มิกซ์ยูส’ ปฏิวัติครั้งใหญ่ รักษาผู้เช่าเดิม เพิ่มผู้เช่าใหม่

กรุงเทพฯ กำลังเข้าสู่ยุค “การปฏิวัติโครงการมิกซ์ยูส” จากการที่มีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะย่านธุรกิจสำคัญที่มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ในอีกไม่กี่ปีจากนี้ จะมีโครงการพัฒนาอาคารสูงประเภทมิกส์ยูส ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ จะเต็มไปด้วยความหลากหลายของการใช้งาน และแนวคิดต่างๆ รวมไปถึงการแย่งชิงผู้เช่าอย่างดุเดือด

mp21 3253 b

เห็นได้ง่ายๆ จากยักษ์ใหญ่ อย่าง แอสเสท เวิรด์ ในเครือไทยเบฟ, สิงห์ เอสเตท เครือบุญรอด บริวเวอรี่, แมกโนเลียส์, โกลเด้นแลนด์ ฯลฯ ที่ต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก โรงแรม ฯลฯ ซึ่งส่งแรงกระเพื่อมรุนแรงให้โครงการมิกซ์ยูสของผู้ประกอบการรายเดิม ต้องเร่งปรับตัวรับมืออย่างเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงใจผู้เช่าเดิม และเพิ่มโอกาสการได้ผู้เช่ารายใหม่

อุปทานโครงการมิกซ์ยูส ที่กำลังจะเกิดขึ้น คาดว่าโครงการใหม่ๆจะนำเสนอการพัฒนาใหม่ๆแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่ ด้วยการพัฒนาที่โดดเด่นหลายแห่งในย่านธุรกิจสำคัญ สร้างความมั่นใจโดยการเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่ง และที่จอดรถ โรงแรมระดับ 5 ดาวภายใต้แบรนด์ อาคารสำนักงานแนวสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อพื้นที่ค้าปลีกที่กว้างขวาง

Mr.Robert Collins
โรเบิร์ต คอลลินส์

นายโรเบิร์ต คอลลินส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาวิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ดังกล่าว ได้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อเจ้าของอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ให้เช่าอยู่ก่อนแล้วในตลาด เมื่อผู้เช่าได้รับข้อเสนอและแรงจูงใจอื่นให้ย้ายสำนักงาน

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ระดับของอุปทานใหม่จะเกิน 100% ของอาคารสำนักงานเดิมที่ตั้งอยู่ในเขตธุรกิจใจกลางเมือง และยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก 5 ปี ซึ่งจะมีผลทำให้การเช่าพื้นที่สำนักงานมีอัตราที่ลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะเจ้าของอาคารสำนักงานต่างๆ ล้วนปรับตัว และแข่งขันกันเพื่อรักษาผู้เช่าเดิมไว้ โดยปัจจัยความสำเร็จสำคัญคือ การพัฒนาพื้นที่กิจกรรม การขยายฐานการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อลดต้นทุน ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และผลกระทบเชิงบวกของชุมชน

Mr. Simon Smith
ไซมอน สมิธ

ด้านนายไซมอน สมิธ หัวหน้าฝ่ายการวิจัย ซาวิลส์ เอเชียแปซิฟิก และที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงของ ซาวิลส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกจะเป็นสิ่งที่กำหนดความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการออกแบบที่ชาญฉลาด

นอกจากนี้ พื้นที่ส่วนรวมยังถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเสมือนการบ่งบอกลักษณเฉพาะตัวตนที่เชื่อมโยงกับชุมชนและสถานที่โดยรอบ การพัฒนาพื้นที่ในเชิงสร้างการรับรู้ของสังคมและชุมชน จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการพบปะ ร่วมมือ และการแบ่งปัน ความปรารถนาแบบดั้งเดิมสำหรับของความต้องการที่อยู่อาศัยย่านชานเมืองกำลังเปลี่ยนไป

Avatar photo