อิหร่านระบุ มาตรการคว่ำบาตรรอบล่าสุดของสหรัฐ จะเป็นการยุติ “ช่องทางการทูต” ระหว่าง 2 ประเทศตลอดไป
นายอับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ทวีตข้อความเตือนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ในวันนี้ (25 มิ.ย.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ
“รัฐบาลที่สิ้นหวังของทรัมป์ กำลังทำลายกลไกระหว่างประเทศ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรักษาสันติภาพ และความมั่นคงของโลก”
มูซาวี บอกด้วยว่า ความพยายามอันไร้ผลที่จะคว่ำบาตรผู้นำ และหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทางการทูตของอิหร่าน หมายความถึง การปิดเส้นทางทางการทูตกับรัฐบาลสหรัฐอย่างถาวร
อย่างไรก็ดี นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐได้เปิดประตู่สำหรับการเจรจาที่แท้จริง และมาตรการคว่ำบาตรที่เกิดขึ้น ก็เพื่อตอบสนองกับท่าทีของอิหร่าน
ความเคลื่อนไหวข้างต้นเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทำขึ้นในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามา ก่อนที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิหร่านจะยิงเครื่องบินโดรนสอดแนม ของกองทัพเรือสหรัฐ มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ตก
เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี กำหนดมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่ออิหร่าน โดยพุ่งเป้าโดยตรงไปที่ผู้นำสูงสุดของประเทศ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี รวมถึง การอายัดทรัพย์สินของเขา โดยให้เหตุผลถึงการกระทำต่างๆ ของอิหร่าน ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุว่า เป็นการทำพฤติกรรมที่ก้าวร้าวอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่สหรัฐบอกด้วยว่า มีแผนที่จะคว่ำบาตรต่อนายโมฮัมหมัด จาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านด้วย
รัฐบาลสหรัฐ ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรรอบล่าสุดนี้ เกิดขึ้นเพื่อกดดันให้อิหร่านเลิกพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และยุติการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธต่างๆ