“บอร์ดกองสลากฯ” ไฟเขียวศึกษาการออกสลากรูปแบบใหม่ทั้ง 2 ตัว 3 ตัว และล็อตโต้ พร้อมเสนอครม.ใหม่พิจารณา คาดชัดเจนภายใน ต.ค.นี้
นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบมาตรการโรดแมพระยะ 3 ที่จะเน้นการออกแบบสลากใหม่ ๆ ต่อเนื่องจากระยะที่ 1 ที่ดูแลราคาสลากไม่ให้เกินราคา และระยะที่ 2 คือ การสร้างสมดุลของสลาก ทั้งการออกสลากชุด และเพิ่มปริมาณสลากให้ผู้ขายรวมเป็น 90 ล้านใบในปัจจุบัน
โดยที่ประชุมมีมติให้คณะทำงานพิเศษที่มีตนเองเป็นประธานคณะทำงานกลับไปศึกษาความเหมาะสมในการออกสลากรูปแบบใหม่ เพื่อนำมาเสนอและสรุปในการประชุมคณะกรรมการในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ โดยจะให้ศึกษาการออกสลากทุกรูปแบบ ทั้งการออกสลาก 2 ตัว 3 ตัว หรือ 4 ตัว 5 ตัว รวมถึงการออกล็อตโต้ด้วย หรือแม้แต่การออกสลากแบบไม่ใช่ตัวเลข โดยอาจจะเป็นรูปภาพหรือตัวหนังสือแทน รวมถึงการออกรางวัลแจ็คพ็อต ซึ่งทั้งหมดสำนักงานสลากฯ จะต้องศึกษาจากการออกสลากของประเทศเพื่อนบ้านด้วยว่าเป็นอย่างไร เชื่อว่าการออกสลากรูปแบบใหม่นั้น จะทำให้ปริมาณการซื้อหวยใต้ดินลดลง 50,000 – 100,000 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่มีมูลค่ากว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ หากในการประชุมครั้งหน้าที่เห็นว่ามีความเหมาะสม ก็จะให้เดินหน้าทำประชาพิจารณ์และเสนอรัฐบาลใหม่พิจารณาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเห็นการสรุปแผนทั้งหมดภายในเดือนตุลาคมนี้ แต่หากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็จะล้มแผนการศึกษาดังกล่าวทันที
ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลาก ระบุว่า ที่ไม่สามารถพิจารณาการออกสลากรูปแบบใหม่ได้ในการประชุมครั้งนี้ เพราะต้องการให้กลับไปพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากเทคโนโลยีการออกสลากต่าง ๆ มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น จะต้องดูให้รอบด้านว่าเทคโนโลยีที่เข้ามาใหม่ ๆ นั้น เหมาะสมเพียงใด
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินงานการออกสลากคละ หรือสลากรวมชุด 2 ใบ ที่ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่งที่น่าพอใจให้กับทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อ เพราะจากการสำรวจพบว่าการรวมชุด 2 ใบ ทำให้มีการขายสลากตามราคาหน้าสลาก 80 บาทมากขึ้น แม้ว่าจะยังเห็นการรวมชุดแล้วราคาสูงเกินกว่าที่กำหนดบ้าง แต่พบการรวมชุด 15 ใบ หรือ 30 ใบลดลง ซึ่งสะท้อนว่าตลาดเริ่มปรับตัวมากขึ้น ดังนั้น จึงเชื่อว่าหลังจากนี้สถานการณ์ราคาสลากแพงจะลดลงแน่นอน
ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสลากแพงอย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมจึงมีมติให้ดำเนินการออกสลากรวมชุด 2 ใบต่อไป และมีมติให้เพิ่มเพดานการพิมพ์สลากเป็น 100 ล้านใบ จากปัจจุบันพิมพ์อยู่ที่ 90 ล้านใบ เพื่อเพิ่มปริมาณสลากให้กับผู้ค้าที่อยู่ในระบบจองซื้อให้สามารถเข้าถึงสลากเพื่อนำไปขายได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาการซื้อสลากจากยี่ปั้วไปขายต่อ โดยเบื้องต้นการเพิ่มปริมาณการพิมพ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้ค้ารายย่อยได้สลากเพิ่มขึ้น 20,000 ราย ซึ่งจะเริ่มจองซื้อปริมาณสลากที่เพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ สำนักงานสลากฯ ยังมีมติให้ใช้แอพพลิเคชั่นสลากในการลงทะเบียนทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยผู้ซื้อสามารถใช้แอพพลิเคชั่นค้นหาผู้ขายที่ขายสลากตามราคาหน้าสลากได้ ขณะที่ผู้ขายสามารถสะสมแต้มความดี เพื่อใช้ในการพิจารณาต่ออายุโควตาได้ต่อไป ซึ่งแอพพลิเคชั่นจะใช้ได้ในเดือนกรกฎาคมนี้
