ความเป็นไปของระดับราคาสินค้าเกษตร 3 ตัวหลัก คือ ข้าว ยางพารา และ ปาล์ม ส่งผลต่อสภาวะการเมือง และความนิยมต่อรัฐบาล ตามระดับราคาที่ปรับสูงขึ้น หรือ ลดต่ำลง
สัปดาห์ที่แล้ว ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีการรายงานถึงสภาวะราคาของพืชทั้ง 3 ตัว โดยปาล์มถูกโฟกัสมากเป็นพิเศษช่วงนี้ว่า ปรับสูงขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน
ข่าวรายงานด้วยว่า ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ อ้างถึงรายงานของ กฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯ และ ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานว่า ราคาค้าข้าว ยางพารา ปาล์ม น้ำมัน ปรับขึ้นจากนโยบายของรัฐบาล
รัฐมนตรีพลังงาน อ้างถึงมาตรการ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ( กพช.) ที่ให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 200,000 ตัน และซื้อไปแล้ว 60,000 ตัน นำไปผลิตไบโอดีเซลบี10 และ บี20 ส่งผลให้ราคาผลปาล์มดิบปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.30-3.50 บาทต่อกก. และราคาน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ) ขยับขึ้นมาที่ 19.75 -20 บาทต่อ กก.
ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกฯ เศรษฐกิจ ให้รายละเอียดถึงสาเหตุที่ราคา ยางพารา และปาล์ม ขยับในช่วงนี้ว่า การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และกลุ่มเกษตรกรเข้าไปซื้อยางพารา ราคานำตลาด รวมทั้งการส่งเสริมใช้ยางในประเทศมากขึ้น
เดิมไทยใช้ยางพาราในประเทศ 500,000 ตันต่อปี หรือ 14 % ของผลผลิตรวม แต่ปีนี้ปริมาณการใช้ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 800,000 ตันต่อปี หรือ 17 % ของผลผลิตรวม และส่งออก 4 ล้านตันต่อปี ราคายางพาราขยับขึ้นมาที่ 60.05 บาทต่อกก. สูงกว่าราคาหลายปีช่วงก่อนหน้านี้
ก่อนที่ข่าวดีเรื่องราคาข้าว ยางพารา และปาล์ม ปรับขึ้น จะถูกรายงานในที่ประชุมครม. รัฐบาลตีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยืนยันและตอกย้ำว่า เป็นผลงานของรัฐบาลชุดนี้นะ
การที่ราคาสินค้าเกษตรทั้ง 3 ตัวปรับขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่างรัฐบาลประยุทธ์ (1) มาสู่รัฐบาลประยุทธ์ (2) ทำให้โจทย์ของ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่จะมากำกับดูแล กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงเกษตรฯ ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก
เหตุผลเพราะภาวะตกต่ำของราคายางพารา และปาล์ม ซึ่งปลูกมากในภาคใต้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมากระทบ กับความนิยมทางการเมืองที่มีต่อ ปชป. ไม่น้อย จำนวนส.ส.ภาคใต้ที่ลดลงจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เปรียบเหมือนเสียงเตือนของคนใต้ต่อพรรคในดวงใจ
เมื่อปชป.มาดูแล 2 กระทรวงหลักที่รับผิดชอบเรื่องการผลิต และราคา ชาวสวนยางพาราคา และปาล์ม คงคาดหวังให้ราคายางพารา และปาล์มน้ำมัน สูงกว่าระดับราคาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และสูงกว่าราคาที่ปชป.หาเสียงกับคนใต้ ว่าจะประกันราคา ยางพารา ไม่ต่ำกว่า 60 บาทต่อกก. (ไม่เกิน 25 ไร่) และ ราคาปาล์ม ไม่ต่ำกว่า 4 บาทต่อกก.(ไม่เกิน 25 ไร่)
ยิ่งกว่านั้นหากรัฐบาลประยุทธ์ 2 นำ นโยบายประกันราคาข้าว ของปชป. ไปร่วมจัดทำนโยบายรัฐบาลตามที่เป็นข่าว การประกันราคาข้าวจะถูกเปรียบเทียบกับ นโยบายช่วยค่าการผลิตที่รัฐบาลปัจจุบันใช้มาตลอด 5 ปี รวมทั้งการดูแลราคา ด้วยการจำนำราคาข้าวแนวนิยมของ พรรคเพื่อไทย ที่ปชป.ค้านและต้านมาโดยตลอดทันที ว่าสุดท้ายแล้วจะทำให้ราคาข้าวได้ดีกว่าหรือไม่
แรงกดดันต่อความคาดหวัง เรื่องผลสัมฤทธิ์ จากการดูแลราคาสินค้าเกษตรหลักทั้ง 3 ตัว คือโจทย์หินของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าปชป. ว่าที่รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หากผลสุดท้ายราคาไม่เป็นไปตามที่เกษตรกรคาดหวัง ย่อมกระทบกับความนิยมของพรรค และโอกาสที่ปชป. จะกลับไปอยู่ในหัวใจประชาชนอีกครั้ง
ถึงเวลา “กัปตันเดโมแครต” ออกปฏิบัติการละครับ
