ธนาคารกลาง 3 ประเทศในยุโรปอ้างสิทธิที่จะเข้าไปควบคุมเงินดิจิทัล ที่เฟซบุ๊กมีแผนจะสร้างขึ้นมา เพื่อรับประกันว่าจะไม่สร้างความเสียหายให้ระบบการเงิน หรือถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “เฟซบุ๊ก” ยักษ์ใหญ่สื่อสังคมออนไลน์สหรัฐ เรียกความสนใจจากคนทั่วโลก เมื่อประกาศแผนเปิดตัวเงินดิจิทัล ที่จะใช้ชื่อว่า “ลิบรา” ส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะขยายกิจการเข้าไปในธุรกิจชำระเงินดิจิทัล
เฟซบุ๊ก ระบุว่า ลิบราจะได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ในโลกจริง รวมถึง เงินฝากธนาคาร และตราสารหนี้ระยะสั้นของรัฐบาล เพื่อให้เป็นเงินที่มีเสถียรภาพ สำหรับการชำระเงิน และโอนเงินได้อย่างจริง มากกว่าเงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ อาทิ บิทคอยน์
ด้วยศักยภาพที่อาจเข้าถึงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตหลายพันล้านคน ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการชำระเงินรายใหญ่ของโลก อย่าง วีซ่า ทำให้เฟซบุ๊กตั้งความหวังว่า ลิบราจะไม่ได้เป็นเพียงเงินดิจิทัลสำหรับการทำธุรกรรมเท่านั้น แต่ยังจะเปิดทางให้ผู้คนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร สามารถเข้าถึงบริการการเงินเป็นครั้งแรกด้วย
แต่นายธนาคารกลางจากอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี กลับออกมาระบุว่า เฟซบุ๊กควรจะคิดถึงการตรวจสอบอย่างละเอียดด้วย
มาร์ก คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ให้สัมภาษณ์ในวันศุกร์ (21 มิ.ย.)ว่า การออกเงินดิจิทัลนี้ จะต้องเป็นเรื่องที่มึความปลอดภัย หรือไม่เช่นนั้น ก็จะต้องไม่เกิดขึ้น
“เรา ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางรายใหญ่ๆ ของโลก และบรรดาผู้ตรวจสอบภาคการเงิน จะต้องเข้าไปควบคุมโดยตรง”
จนถึงขณะนี้ ธนาคารกลางเกือบทั่วโลกต่างละเว้นที่จะเข้าไปควบคุมเงินดิจิทัล และเมื่อปีที่แล้วยังล้มเหลวที่จะบรรลุข้อตกลงถึงวิธีการที่จะหาทางควบคุม พร้อมสรุปว่า เงินดิจิทัลมีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะสร้างความเสี่ยงต่อระบบการเงิน
หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบการเงินโลกรายอื่นๆ ก็กำลังจับตาการเติบโตของเงินดิจิทัลอยู่เช่นกัน โดยคาดว่า คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (เอฟเอทีเอฟ) ซึ่งมีฐานการดำเนินงานอยู่ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส จะประกาศกฎข้อบังคับ เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้เงินดิจิทัลไปในทางที่ผิดกฎหมาย
แผนการออกเงินลิบรา ทำให้ประเด็นเรื่องเงินดิจิทัลกลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง แต่คราวนี้เปลี่ยนการพุ่งเป้าจากบิทคอยน์ ไปยังเงินที่เรียกว่า เงินมีเสถียรภาพ อาทิ ลิบราของเฟซบุ๊ก ที่มีสินทรัพย์จากโลกจริงๆ ค้ำประกันอยู่
ในวันเดียวกันนั้น ฝรั่งเศสยังเปิดเผยว่า ได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาสำหรับดูแลในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบของฝรั่งเศส ในฐานะประธานกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุด 7 ชาติ หรือ จี7 โดยจะตั้งนายเบนัวต์ เคอร์ กรรมการบริหารธนาคารกลางยุโรป เป็นหัวหน้าคณะทำงานชุดนี้
ขณะที่นายเยนส์ ไวด์มานน์ ผู้ว่าการธนาคารกลางเยอรมนี เตือนว่า ลิบราอาจสร้างความเสียหายให้กับธนาคารต่างๆ ได้ หากกลายเป็นทางเลือกที่แพร่หลาย แทนที่การฝากเงินสกุลต่างๆ แบบดั้งเดิม
หนึ่งในประเด็นที่คณะทำงานพิเศษของจี7 จะพิจารณาเกี่ยวกับเงินดิจิทัลของเฟซบุ๊ก คือ เรื่องของผู้ดูแล หรือสถานที่ และวิธีการจัดเก็บสกุลเงินต่างๆ ที่จะนำมาใช้สนับสนุนเงินดิจิทัลนี้