Business

ผลวิจัยชี้คนหางานต้องเร่งพัฒนาทักษะ รับตลาดงานเปลี่ยน

ตลาดงานเปลี่ยน

สำหรับบัณฑิตใหม่ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา หรือพนักงานบริษัทที่ได้รับโบนัสไตรมาสแรกของปีเรียบร้อยแล้วและกำลังจะเริ่มหางานใหม่ มีการสำรวจที่น่าสนใจจากจ๊อบส์ ดีบีมาฝากกัน โดยการสำรวจนี้จัดทำใน 7 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง เวียดนาม และประเทศไทย ใน 20 กลุ่มธุรกิจ พบ “ภาษา – เทคโนโลยี” เป็นปัจจัยสำคัญที่ท้าทายผู้สมัครงานของไทย

โดยแนวโน้มผลสำรวจสำหรับประเทศไทย สิ่งที่นายจ้างต้องการคือพนักงานคุณภาพ ที่มีทักษะด้านเทคโนโลยี สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของตลาดงานในระดับภูมิภาค ส่วนด้านผู้หางานยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์จ้างงานอันเป็นผลจากการขาดทักษะในการทำงานที่หลากหลาย โดยที่ภาษาและเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยท้าทายผู้หางาน นายจุลเดช มัชฉิมานนท์ ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าองค์กร บริษัท จัดหางาน จ็อบส์ ดีบี (ประเทศไทย จำกัด) ได้ให้มุมมองจากผลสำรวจภาพรวมตลาดงานจากตัวแทนผู้ประกอบการว่า 50% ของผู้ประกอบการ คิดว่าจะมีแนวโน้มการจ้างงานมากขึ้นจากการขยายธุรกิจ และ 25% จะจ้างเฉพาะตำแหน่งงานที่จำเป็นเท่านั้น

ตลาดงานเปลี่ยน

โดยช่วงเวลาที่มีความต้องการการจ้างงานมากที่สุดคือเดือนมกราคมซึ่งเป็นช่วงหลังจากรับโบนัสปลายปี และเดือนมิถุนายน โดยเป็นช่วงที่คนเรียนจบและเริ่มหางาน ประกอบกับลูกจ้างที่ได้รับโบนัสในช่วงไตรมาสแรกของปี”

จากผลสำรวจในส่วนของผู้ประกอบการ พบว่า 5 อันดับธุรกิจที่เติบโตสูงสุดได้แก่
1) ธุรกิจโฆษณา การตลาดและประชาสัมพันธ์
2) ธุรกิจวิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และวิศวกรรมเครื่องกล
3) ธุรกิจกิจไอที
4) ธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้า/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
5) ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

ตลาดงานเปลี่ยน

ในขณะที่ 5 กลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตของการลงโฆษณาประกาศหางานมากที่สุด คือ
1) ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก
2) ธุรกิจการผลิต
3) ธุรกิจเทรดดิ้ง
4) ธุรกิจไอที
5) บริการด้านการเงิน

นอกจากนั้นแล้วธุรกิจทั้ง 5 กลุ่มนี้ยังมีอัตราความต้องการบุคคลากรเพิ่มมากที่สุดด้วยเช่นกัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0

“นอกจากนั้น 5 ตำแหน่งงานเฉพาะด้านที่มีความต้องการสูงสุดได้แก่ 1) พนักงานขายและพัฒนาธุรกิจ 2) วิศวกร 3) ธุรการและงานบุคคล 4) เจ้าหน้าที่ไอที และ 5) พนักงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ โดยมีปัจจัยผลักดันให้เกิดความต้องการจาก อัตราการลาออกสูง โลกาภิวัฒน์ ความต้องการด้านทักษะที่เปลี่ยนแปลงไป” นายจุลเดช กล่าวเสริม

ตลาดงานเปลี่ยน
นายวรวุฒิ วาริการ

ด้าน นายวรวุฒิ วาริการ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ็อบส์ ดีบี (ประเทศไทย จำกัด)เปิดเผยว่า “ผู้หางาน 53% ไม่มั่นใจว่าจะหางานได้ง่ายในปีนี้ เพราะมีความท้าทายหลายปัจจัย เนื่องจากผู้หางานต้องพัฒนาทักษะที่หลากหลาย ทั้งด้านการแข่งขันตามสายงานที่เข้มข้นขึ้น และด้านภาษา การปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรที่มีความแตกต่าง รวมถึงต้องเรียนรู้ด้านไอทีและโลกดิจิทัล ถึงแม้ตลาดงานจะมีตำแหน่งงานแต่การแข่งขันก็สูงขึ้นตามไปด้วย”

โดยจากผลสำรวจผู้หางานมีมุมมองว่าธุรกิจปิโตรเลียมและธุรกิจยานยนต์มีการเติบโตรวมถึงมีอัตราผลตอบแทนสูง

แต่ผลสำรวจพบว่าธุรกิจขายส่งและธุรกิจการผลิต ซึ่งเป็นธุรกิจพื้นฐานที่ขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศชาติอย่างแท้จริงนั้น มีอัตราการเติบโตของการลงประกาศงานในจำนวนที่สูง รวมถึงปัจจัยเรื่องค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของพนักงานระดับบริหารที่น่าดึงดูดใจสร้างแรงจูงใจให้ผู้หางานปรับพฤติกรรมในการหางาน ด้วยการหางานอย่างจริงจังมากขึ้น

โดยสิ่งที่การสำรวจนี้พบคือ ภาพของความไม่สมดุลระหว่างมุมมองการคาดการณ์ธุรกิจที่เติบโตและความเป็นจริงของการเติบโตตลาดงานที่สวนทางกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในมุมขององค์กรนั้น ควรเตรียมกลยุทธ์การสรรหาและรักษาพนักงานที่มีความสามารถเอาไว้ ขณะที่ฝั่งผู้หางานต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการคัดเลือกที่มีความเข้มข้นมากขึ้น

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight