Business

‘สมาร์ท จิวเวลรี่’ เทรนด์มาแรงตลาดสหรัฐ แนะใช้โซเชียลเพิ่มโอกาสการค้า

ทูตพาณิชย์ลอสแอนเจลิสแนะผู้ประกอบการไทยเจาะตลาดอัญมณีและเครื่องประดับสหรัฐ ชี้ผู้บริโภคสนใจสินค้าที่ต่างจากคนอื่น ชี้ช่องค้าผ่านอีคอมเมิร์ซและโซเชียลมีเดีย ร่วมงานแฟร์ระดับโลก

นางขวัญนภา ผิวนิล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า ณ นครลอสแอนเจลิส เปิดเผยว่า ตลาดสินค้าเครื่องประดับของสหรัฐอเมริกามีการเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2552 หลังจากฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ และคาดการณ์ว่า ตลาดจะขยายตัวต่อไปจนถึงปี 2565 แม้ว่าจะมีการขยายตัวในอัตราที่ลดลง โดยคาดการณ์ว่า ปีนี้ตลาดจะเติบโต 1.4%

Monvatoo brand rs

แนวโน้มตลาดสหรัฐที่น่าสนใจคือ ผู้บริโภคสนใจและต้องการสินค้าที่มีรูปแบบแตกต่างจากคนอื่น และหันไปซื้อสินค้าที่มีการออกแบบเป็นสินค้าชิ้นเล็กๆ เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องการสินค้าที่มาจากแหล่งกำเนิดแท้จริงของเครื่องประดับนั้นๆ (Ethnic) จนตลาดไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ซึ่งนี่คือโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะสามารถผลิตสินค้าเครื่องประดับป้อนตลาดนี้ได้

นอกจากนี้ อีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงคือ การเติบโตของสมาร์ท จิวเวลรี่ (Smart Jewelry) หรือเครื่องประดับที่ผลิตโดยการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าไปเพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งาน เช่น สร้อยข้อมือที่สามารถเก็บข้อมูลทำกิจกรรมต่างๆ ของผู้สวมใส่ แหวนที่สามารถวัดจำนวนก้าวและแคลอรี สร้อยคอที่จะสั่นเบาๆ เพื่อแจ้งว่ามีโทรศัพท์ อีเมล เข้ามา เป็นต้น

“ชาวอเมริกันมองหาเครื่องประดับที่โดดเด่นทั้งด้านคุณภาพ และทรงคุณค่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเครื่องประดับจากประเทศไทยสามารถตอบโจทย์นี้ได้ โดยเห็นได้ชัดจากการที่คูหาประเทศไทย ในงาน JCK Las Vegas ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องประดับเงิน และเครื่องประดับพลอยสีเจียระไนแล้ว”นางขวัญนภากล่าว

Thai Exhibition at JCK rs

ขณะเดียวกัน การเติบโตของยอดขายปลีกผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซและการใช้โซเชียลมีเดีย จะกลายเป็นช่องทางโปรโมตสินค้าและจำหน่ายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของผู้ประกอบการไทยอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบการระดับ SMEs ที่อาจมีงบประมาณในการทำตลาดไม่สูงนัก

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ช่องทางการร่วมงานจัดแสดงสินค้าสำคัญระดับสากล อย่างงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 64 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10-14 กันยายน 2562 ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นเวทีในการแสดงผลงาน โชว์ดีไซน์ และพบปะคู่ค้าจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมขยายโอกาสทางการค้าอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มเติบโต แต่ก็ต้องจับตามองตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในปีนี้ ได้แก่ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แนวโน้มที่อาจเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ที่อาจส่งผลต่อการใช้จ่ายเงินของผู้บริโภค เนื่องจากตลาดสหรัฐฯ มีความอ่อนไหวเรื่องราคาสินค้า ซึ่งจะส่งกระทบต่อการกำหนดราคาสินค้าและการออกแบบสินค้า เมื่อสินค้ามีราคาแพงขึ้น ผู้บริโภคจะหันไปซื้อสินค้าที่มีราคาต่ำกว่าแทน

Pahkin brand

สำหรับการค้าสินค้าอัญมณีและครื่องประดับระหว่างสหรัฐฯ และไทยในปี 2561 ประเทศไทยส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปสหรัฐฯ มูลค่ารวม 1,357 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.72% จากปี 2560 โดยสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ 3 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องประดับเงิน (553 ล้านเหรียญสหรัฐ), เครื่องประดับทอง (429 ล้านเหรียญสหรัฐ) และทับทิม แซฟไฟร์ มรกต และพลอยเจียระไนอื่นๆ (167 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ขณะที่สหรัฐฯ ส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมาไทยมูลค่ารวม 591 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 40% จากปี 2560 โดยสินค้าส่งออกหลัก 3 อันดับแรก ได้แก่ เพชร พลอย แพลตตินัม ตามลำดับ

Avatar photo