อย. จ่อเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลาง เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดสากล นำยาเสพติดให้โทษที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง หรือพิพากษาให้ริบของกลางมาเผาทำลายกว่า 16,467 กิโลกรัม หรือ 16.467 ตัน จาก 6,910 คดี มูลค่ารวมกว่า 20,047 ล้านบาท ด้วยระบบไพโรไลติก อินซิเนอะเรชั่น เผาด้วยอุณหภูมิสูง 850 องศาเซลเซียส
ในปีนี้จะดำเนินการเผาทำลายจำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 26 มิถุนายน และ 5 กรกฎาคม 2562 ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจะมีเมล็ดกัญชง ที่จะนำมาร่วมเผา กว่า 16 กิโลกรัม รวม 1 คดี อีกด้วย
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ในวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี ตรงกับวันต่อต้านยาเสพติดสากล อย.จับมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) และ บริษัท ที่ดินบางปะอิน จำกัด ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กำหนดให้มีการเผาทำลายยาเสพติดให้โทษที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง หรือพิพากษาให้ริบของกลางนำมาเผาทำลายจำนวน 16,467 กิโลกรัม 430 กรัม 926 มิลลิกรัม จาก 6,910 คดี มูลค่ารวมกว่า 20,047 ล้านบาท ประกอบด้วย
อันดับ 1 เมทแอม เฟตามีน หรือยาบ้า มีน้ำหนักมากที่สุดถึง 12,369 กิโลกรัม มูลค่า 13,743 ล้านบาท
อันดับ 2 ยาไอซ์ กว่า 3,443 กิโลกรัม มูลค่า 5,509 ล้านบาท
อันดับ 3 เฮโรอีน กว่า 143 กิโลกรัม มูลค่า 608 ล้านบาท
อันดับ 4 ยาอี กว่า 14 กิโลกรัม มูลค่า 25 ล้านบาท
อันดับ 5 ฝิ่น กว่า 258 กิโลกรัม มูลค่า 25 ล้านบาท
อันดับ 6 โคคาอีน กว่า 44 กิโลกรัม มูลค่า 134 ล้านบาท
อันดับ 7 ยาเสพติดอื่น ๆ 63 กรัม
อันดับ 8 วัตถุออกฤทธิ์ฯ เช่น คีตามีน อัลปราโซแลม กว่า 191 กิโลกรัม
อันดับ 9 อื่นๆ ที่ไม่ใช่สารเสพติด เช่น โทลูอีน อีก 1 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังมีของกลางจากหน่วยงานอื่น ๆ มาร่วมเผาทำลายในครั้งนี้ด้วย ได้แก่
- กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำ เมล็ดกัญชง น้ำหนักกว่า 16 กิโลกรัม รวม 1 คดี
- กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้นำภาชนะหีบห่อ ที่ผ่านการใช้งานบรรจุยาเสพติดให้โทษ จำนวน 6 กล่อง
- ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จังหวัดปทุมธานี ได้นำบรรจุภัณฑ์ที่เคยใส่ตัวอย่างยาเสพติด เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ จำนวน 5 กล่อง น้ำหนัก 10 กิโลกรัม
โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปตรวจพิสูจน์ความโปร่งใส ในวันที่ 25 มิถุนายน 2562 ณ บริเวณคลังเก็บรักษายาเสพติดให้โทษของกลาง (ใหม่) อาคาร 6 ชั้น 1 และ วันที่ 4 กรกฎาคม 2562 ณ บริเวณคลังเก็บรักษายาเสพติดให้โทษของกลาง (เก่า) อาคาร 2 ชั้น 1 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ก่อนนำไปเผาทำลายที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภค และสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยวิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชั่น (Pyrolytic Incineration) ซึ่งเป็นการเผาที่อุณหภูมิ สูงมาก ไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้เกิดการสลายตัวของโมเลกุล กลายเป็นคาร์บอนในระยะเวลาอันรวดเร็วไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศ และจะไม่มียาเสพติดหวนกลับมาใช้ได้อีก
นพ.ธเรศ กล่าวว่า ยาเสพติดถือเป็นภัยร้ายต่อสังคม รัฐบาลจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการขจัดยาเสพติดให้หมดไปในทุกรูปแบบ โดยในปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 49 แล้ว ซึ่งจะมีการดำเนินการเผาทำลายจำนวน 2 ครั้ง ขอเชิญชวนสื่อมวลชนทุกแขนงมาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเผาทำลายยาเสพติดให้โทษ ณ ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 26 มิถุนายน เวลา 10.00 น. และ 5 กรกฎาคม 2562 เวลา 8.00 น.