ผู้ประกอบการเอ็นจีวีอ่วม หลังยอดใช้หดตัว เหลือ 5,500 ตันต่อวัน ปั๊มปิดตัว 40 แห่งรวด ผู้ค้ารวมตัวกว่า 200 คนตั้งสมาคมฯ เตรียม 4 ข้อเสนอถึงรมว.พลังงานคนใหม่ ทวงถามนโยบายรัฐส่งเสริมการใช้เอ็นจีวี ย้ำราคาเอ็นจีวีต้องต่ำกว่าดีเซลครึ่งหนึ่ง
หลังจากนโยบายรัฐในการส่งเสริมก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) แผ่วลงถูกแซงหน้าด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และในปี 2561 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ยังมีมติลอยตัวราคาเอ็นจีวี ส่งผลให้รถทั่วไปใช้เอ็นจีวีที่ราคา 16.01 บาทต่อกก. ขณะที่ กลุ่มรถบริการสาธารณะยังใช้เอ็นจีวีอยู่ที่ 10.62 บาทต่อกก. ถูกกว่า 5.39 บาทต่อกก. โดย ปตท.เป็นผู้รับภาระส่วนต่างราคา
ต่อมามติกบง.เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2562 ได้ให้ปตท.ทยอยปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี กับกลุ่มรถแท็กซี่ รถตู้ รถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ 1 บาทต่อกก. ทุก 4 เดือนจนครบ 3 บาทต่อกก. เริ่มมีผล16 พฤษภาคม 2562 ทำให้ราคาสูงสุดขึ้นไปเป็น 16.83 บาทต่อกก. ส่งผลให้ยอดการใช้เอ็นจีวีในไตรมาส 1 ปี 2562 เหลือ 5,500 ตันต่อวัน จากก่อนหน้านี้เคยมียอดการใช้สูงสุดถึง 9,000 ตันต่อวัน ส่วนสถานีเอ็นจีวีปี 2561 เหลือ 447 แห่ง ปิดไปกว่า 40 แห่ง
ทำให้ผู้ประกอบการเอ็นจี ทั้งผู้ค้าก๊าซฯ ผู้ขนส่ง และสถานีเอ็นจีวีนั่งไม่ติด รวมตัวจัดตั้ง “สมาคมผู้ประกอบการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ “ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กว่า 200 คน เพื่อสร้างพลัง และเตรียมยื่นหนังสือให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่
นายศักดิ์ชัย ลีสวรรค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ กล่าวว่า หลังจากกระทรวงพลังงานได้ประกาศปล่อยลอยตัวราคาเอ็นจีวี และสนับสนุนการใช้น้ำมันดีเซล บี 20 และบี10 ประกอบกับมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ส่งผลให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกขนส่งหันไปใช้น้ำมันดีเซลกันมากขึ้น ขณะเดียวกันยังส่งเสริมรถอีวี แต่อย่าลืมว่า ไฟฟ้าก็ก๊าซธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิงหลัก และรถส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้ใช้ เพราะราคาสูง ส่วนรถขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุกจะเป็นรถไฟฟ้าก็เป็นเรื่่องยาก เทียบกับเอ็นจีวี ที่รัฐมีนโยบายสนับสนุนมานับสิบปี มีโครงสร้างต่างๆรองรับอย่างชัดเจน ทั้งเป็นพลังงานสะอาดอย่างแท้จริง รัฐจึงควรสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
“ปตท.ไม่มีการลงทุนเอ็นจีวีมาระยะหนึ่ง เราก็ได้สอบถามไปยังปตท.มาตลอด ในเรื่องการส่งเสริมสนับสนุนเอ็นจีวี แต่ก็ไม่มีคำตอบ บอกได้เพียงว่า เป็นเรื่องนโยบาย เราจึงคิดว่าหากอยู่เฉยผู้ประกอบการเอ็นจีวีต้องล้มหายตายจากไปภายใน 3 ปีอย่างแน่นอน จึงต้องรวมตัวเป็นสมาคมฯเพื่อยื่นคำร้อง “
โดยเตรียม 4 ข้อเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ ดังนี้
1.ให้รัฐคงนโยบายให้เอ็นจีวีถูกกว่าดีเซล 50% ต่อไป หรือประมาณ 13.05 บาทต่อกก. จากดีเซลปัจจุบัน 26 บาทต่อลิตร
2.ลดภาษีนำเข้ารถบรรทุกเอ็นจีวี ให้ราคาเท่ากับรถใช้ดีเซล เพื่อส่งเสริมการใช้เอ็นจีวี
3.เพิ่มน้ำหนักบรรทุกรถขนส่งเอ็นจีวี 1.5 ตัน เพราะรถขนส่งเอ็นจีวีเสียน้ำหนักไปกับโครงสร้างรถ ทำให้บรรทุกเนื้อก๊าซฯได้น้อย
4.ขอผ่อนผันเวลาการเดินรถของรถบรรทุกเอ็นจีบวก 4 ชม.
