รายงานการท่องเที่ยวโลกล่าสุดระบุ จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเกิดใหม่ อย่าง กรุงเทพมหานคร เคปทาวน์ และอิสตันบูล กำลังเจอกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น
สภาการท่องเที่ยว และการเดินทางโลก (ดับเบิลยูทีทีซี) เปิดเผยรายงานฉบับล่าสุด “Destination 2030” ซึ่งเป็นการประเมินอย่างครอบคลุมเป็นครั้งแรก ถึงความพร้อมของเมืองต่างๆ ในการรับมือกับการเติบโตด้านการท่องเที่ยว
รายงานฉบับนี้เป็นการตรวจสอบการเตรียมความพร้อมของ 50 เมืองทั่วโลก ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ จากการขยายตัวในการเดินทาง และการท่องเที่ยวในอนาคต พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไข สำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในกิจกรรมการท่องเที่ยว
ในการสำรวจนักเดินทางทั่วโลกจำนวน 1,400 ล้านคน เมื่อปี 2561 นั้น พบว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามมากถึง 45% ที่เดินทางไปเที่ยวตามเมืองใหญ่ และนักเดินทางมากกว่า 500 ล้านคน เดินทางไปเที่ยวตามเมืองขนาดใหญ่สุด 300 เมืองของโลก
แม้จะมีนักเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่จุดหมายปลายทางที่เป็นเมืองใหญ่เหล่านี้ กลับมีความพร้อมที่จะรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในเมืองไม่เท่ากัน
ในหัวข้อ “Emerging Performers” มีการระบุถึง มหานครอย่าง กรุงเทพฯ นครเคปทาวน์ กรุงนิวเดลี นครโฮจิมินห์ซิตี้ อิสตันบูล จาการ์ตา และเม็กซิโก ซิตี้ว่า เป็นกลุ่มเมืองใหญ่ที่มีระดับการเตรียมพร้อมต่ำ และมีแรงกดดันที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ในขณะที่เมืองใหญ่อย่าง กรุงปักกิ่ง ชิคาโก ดูไบ ฮ่องกง มิวนิค เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ โตเกียว และวอชิงตัน ดีซี ติดอยู่ในกลุ่ม “Balanced Dynamics” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเตรียมความพร้อมของเมือง และโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว ทั้งยังมีพื้นที่เหลือเพื่อรองรับจำนวนผู้มาเยือนที่เพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ในการจัดอันดับความพร้อมของเมืองต่างๆ นั้น ผู้จัดรายงานฉบับนี้ ได้ประเมินความสามารถของเมืองใน 7 ปัจจัยด้วยกัน รวมถึง ขนาดของการเดินทางและการท่องเที่ยว ความเข้มจ้น และความหนาแน่นในกิจกรรมของนักท่องเที่ยว จำนวนผู้ขับขี่ยานพาหนะเพื่อการพักผ่อน -เดินทางธุรกิจ ความพร้อมของเมืองต่อการเติบโต นโยบายที่เกี่ยวกับ และระดับความตึงเครียดของเศรษฐกิจท่องเที่ยวท้องถิ่น ที่มีต่อเมืองโดยรวม