“ไมค์ ไทสัน” ชื่อนี้คอกีฬาทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีเขาคือ เจ้าของแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สถาบัน ที่สร้างวีรกรรมไว้มากมายบนสังเวียนผืนผ้าไป ที่ตรึงตาตรึงใจที่สุดคือกัดหู อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์
ปัจจุบัน “มฤตยูดำ” แขวนนวมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผันตัวทำธุรกิจต่างๆทั้งเป็นคอมเมนเตเตอร์มวยโลก, เป็นนักแสดงรับเชิญภาพยนตร์เรื่องแฮงค์โอเวอร์,เปิดการแสดง เดี่ยวไมโครโฟน แต่ไม่มีธุรกิใดที่จะสร้างความมั่งคั่งให้แก่อดีตกำปั้นวัย 52 ปี ได้เท่าธุรกิจกัญชาเกรดพรีเมียม
ปัจจุบัน อดีตกำปั้นรุ่นยักษ์ชาวอเมริกัน ผันตัวทำธุรกิจ “กัญชา” แบบจริงจัง มีลูกค้ามากมายที่พร้อมให้การสนับสนุนตั้งแต่วัยรุ่นยันวัยดึก แถมไม่ผิดกฎหมายเพราะว่าแม้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะยังไม่อนุญาตให้ใช้ได้อย่างถูกกฏหมายไปทั่วประเทศ แต่มีบางรัฐที่ได้รับการยกเว้นรวมถึงแคลิฟอร์เนีย ที่เขาลงหลักปักฐานสร้างไร่กัญชา โดยมีผู้เชี่ยวชาญทั้งสายเกษตรและการแพทย์คอยให้คำปรึกษาดูแลการผลิตทุกขั้นตอน
ไมค์ ไทสัน เริ่มต้นธุรกิจกัญชาแบบจริงจังหลังรัฐบาลสหรัฐฯปลดล็อคให้รัฐแคลิฟอร์เนีย ซื้อ-ขาย และเสพกัญชาได้อย่างถูกกฎหมายเมื่อปี 2016 โดยเขาและเพื่อนซื้อที่ดินกว่า 100 ไร่ บริเวณใกล้เคียงอุทยานแห่งชาติ เดธ วัลลี เพื่อดำเนินธุรกิจนี้ภายใต้ชื่อบริษัท “Tyson Holistic” โดยมีเป้าหมายผลิตกัญชาสำหรับใช้เพื่อความผ่อนคลาย หรือใช้สำหรับผสมอาหารด้วยคุณภาพระดับสูงเหนือกว่ากัญชาจากพ่อค้าทั่วไป ภายใต้แบรนด์ “Tyson Ranch”
จะว่าไป “ไมค์ ไทสัน” ก็มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯปลดล็อคกัญชาเนื่องจากเขาเคยให้สัมภาษณ์ออกสื่อสมัยยังสวมนวมว่าเขาเสพกัญชาทุกครั้งก่อนขึ้นเวทีเพราะมันทำให้เขารู้สึกว่ามีกำลังวังชามากขึ้น จากนั้นวงการแพทย์ของสหรัฐฯจึงนำเรื่องกัญชาที่เคยผิดกฏหมายมาทบทวนใหม่
จากการวิจัยพบว่ากัญชานอกจากทำให้เคลิบเคลิ้มผ่อนคลายแล้วยังมีสรรพคุณทางยาด้วย จนทำให้นักกีฬาคนอื่นเริ่มหันมาใช้บ้าง เพียงแต่การใช้กัญชาเหมือนเป็นดาบสองคมมีประโยชน์ก็ต้องมีโทษด้วยหากใช้แบบเกินขอบเขตมันกลายเป็นการเสพติดที่ขาดไม่ได้ แต่สำหรับ “ไทสัน” แล้วเขารู้จักใช้อย่างพอดีทำให้ไม่เสียผู้เสียคน
จากการเป็นคนที่เสพกัญชามาทั้งชีวิต ทำให้ ไมค์ ไทสัน รู้ดีถึงการทำธุรกิจกัญชาให้ออกมาดีต้องอย่างไร แม้เขาจะไม่ใช่คนลงมือปลูกเองแต่ก็จ้างเผู้เชี่ยวชาญมาทำการปลูก โดยที่เขาจะตรวจสอบคุณภาพในขั้นตอนสุดท้ายก่อนบรรจุปล่อยสู่ตลาด สินค้าแบรนด์ “Tyson Ranch” จึงเป็นสินค้าเกรดพรีเมียม
ด้วยลูกค้าส่วนใหญ่คือวัยรุ่นที่รักความสนุก แบรนด์ “Tyson Ranch” จึงวางจำหน่ายในพื้นที่ๆไม่ผิดกฏหมายให้เด็กที่บรรลุนิติภาวะได้ซื้อหา โดยเฉพาะตามงานเทศกาลดนตรี นอกจากนี้ยังมีบรรดาคนวัยทำงานมาอุดหนุนเพื่อคลายเครียด รวมทั้งบรรดานักแสดง นักกีฬาก็มีมาอุดหนุนเช่นกัน อาทิ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ นักสู้แห่ง UFC จนมีการคากการณ์ว่า “ไทสัน” ทำรายได้จากธุรกิจกัญชาไปแล้วเกือบ 1,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 31,200 ล้านบาท)
หลังจากแบรนด์ “Tyson Ranch” อยู่ตัวทำกำไรได้มหาศาล ไมค์ ไทสัน ไม่หยุดแค่นี้เขาต่อยอดธุรกิจด้วยการวางโปรเจ็คยักษ์เปิดรีสอร์ตกัญชาขนาดใหญ่ในพื้นที่กว่า 420 เอเคอร์ที่ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งประกอบด้วย ที่พัก,พื้นที่กางเต็นท์, พื้นที่สันทนาการใช้กิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะจัดคอนเสิร์ต และแน่นอนพื้นที่ขายกัญชาเกรดพรีเมียม
ไม่ใช่แค่เพียงทำธุรกิจหารายได้เพียงอย่างเดียว ไมค์ ไทสัน ยังมีแพลนเปิดหลักสูตรอบรมให้ความรู้เรื่องกัญชาแก่ผู้ที่สนใจด้วย
ไทสัน เปิดใจถึงธุรกิจของเขาว่า “ผมอยากให้ทุกคนมองในมุมเดียวกับที่ผมมองบ้าง ผมไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีแล้วก่อนตัดสินใจเข้าสู่วงการนี้ ที่ผ่านมาผมอาจเสพยาอย่างหนักแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เพราะกัญชาสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ ในสายตาผมมันจึงเป็นสิ่งที่ดี มากกว่าเรื่องร้าย”
แม้ทั่วโลกยังไม่เปิดกว้างที่จะยอมรับให้ใช้ “กัญชา” ได้อย่างเสรีและถูกกฎหมาย แต่จากประสบการณ์ผู้ใช้จริงอย่าง “ไมค์ ไทสัน” ลงมือทำและพิสูจน์ให้เห็นว่ามีทั้งประโยชน์และโทษควบคู่กันไป เชื่อว่าทั่วโลกจะหันมาทบทวนใหม่ ถ้าควบคุมการใช้ได้ก็น่าเปิดใจยอมรับมัน
ข้อมูลจาก metro.co.uk
