General

เตือน! อย่าปล่อยลูกหลานใช้สมาร์ทโฟนมากเกิน มีผลต่อสติปัญญา-อารมณ์-สายตา

เตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองใส่ใจลูกหลาน อย่าปล่อยใช้สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างไม่ระมัดระวัง มีผลต่อสติปัญญา การเข้าสังคม และเสี่ยงโรคตา

รองอธิบดีกรมการแพทย์
นพ.มานัส โพธาภรณ์

นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากการที่สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ใช้งานไม่ยาก มีซอฟต์แวร์น่าใช้ ดึงดูดสายตาเด็ก ประกอบกับผู้ปกครองนิยมใช้เป็นสื่อหนึ่งในการเพิ่มทักษะต่างๆ ให้แก่เด็ก โดยอาจไม่รู้ถึงโทษที่จะตามมาโดยเฉพาะปัญหาสุขภาพตา

ทั้งนี้พบว่าเด็กบางกลุ่มใช้เวลาไปกับสื่อต่าง ๆ เป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อสติปัญญา การพัฒนาทางอารมณ์ และสังคม ความตั้งใจเรียนที่โรงเรียนลดลง พฤติกรรมการกิน การนอนผิดไปจากปกติ และอาจเกิดโรคอ้วนตามมา

นอกจากนี้ยังพบปัญหาทางตา จากการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ ได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดตา ตาแห้ง เคืองตา ตามัว และเสี่ยงสายตาสั้นก่อนเวลาอันควร หากพบว่าเด็กมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที

boy 1946347 640

พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคตาเด็กในยุคดิจิทัล เกิดจากการที่ใช้เวลาติดหน้าจอนานๆ เด็กจะสูญเสียเวลาส่วนใหญ่ ไปกับการจับจ้องอยู่ที่จอ ทำให้เกิดปัญหาทางสายตา ได้แก่ ปวดศีรษะ ตาแห้ง เคืองตา และตามัว เพราะใช้สายตาเพ่งมองมาก

โดยหากเด็กใช้เวลาไปกับการจ้องจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ จะพบภาวะสายตาสั้นได้มากกว่ากลุ่มเด็ก ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง จึงไม่ควรปล่อยให้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างไม่ระมัดระวัง เพราะอาจส่งผลเสียในหลายด้าน เด็กจะสูญเสียเวลาส่วนใหญ่ ไปกับการจับจ้องอยู่ที่จอ นอกจากนี้ยังบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เข้านอนดึก ขาดการออกกำลังกาย เป็นโรคอ้วน และขาดการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

ดังนั้น จึงควรใช้สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยมีคำแนะนำ 5 ข้อ ดังนี้

1.ไม่ควรให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ ดูโทรทัศน์ หรือ เล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

2.ไม่แนะนำให้มีสื่อต่าง ๆ ในห้องนอน

3.ต้องปิดสื่อเหล่านี้ในขณะรับประทานอาหาร

4.ไม่ควรใช้เวลาเล่นสื่ออุปกรณ์ นานเกิน 1 – 2 ชั่วโมงต่อวัน

5.หากมีอาการแสบตา ตามัวหรือปวดตา ควรพักสายตามองไปไกล ๆ หรือหลับตาพักสายตาทุก 20 นาที และกระพริบตาบ่อยขึ้น

boy 3360415 640

อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดการพัฒนาของสติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคม ควรให้เด็กทำกิจกรรมกลางแจ้ง และอ่านหนังสือ ที่สำคัญสมองเด็กมีพัฒนาการที่เร็วมากใน 2-3 ขวบแรก จึงควรเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่ดีกว่าจอคอมพิวเตอร์

Avatar photo