นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถือว่ามีความคืบหน้า และเตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่ยุโรปภายในเดือนนี้ พร้อมกับคณะของนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงถึงความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่การปฏิรูปประเทศ โดยมีเป้าหมายให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในโครงการ EEC พร้อมยืนยันว่า แม้จะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศแทน ก็ต้องสานต่อโครงการดังกล่าวเพื่อความต่อเนื่อง และจะไม่เกิดการสะดุดอย่างที่หลายฝ่ายมีความกังวล เพราะขณะนี้ได้มีการออกกฎหมายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 รองรับเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ โครงการ EEC เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย ซึ่งเป็นเมืองท่าติดทะเลเหมาะกับการเป็นเมืองท่าด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและการท่องเที่ยว โดยภายใน 5 ปีแรกจะเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคมนาคมเป็นหลัก โดยจะมี 6 โครงการหลักที่เป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) เพื่อให้โครงการ EEC เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ได้แก่ 1. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก 2. ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา 3. รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 4. ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 5. ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 และ6. โครงการพัฒนาสวนสาธารณะดิจิทัลอีอีซี มูลค่าลงทุน 5 แสนล้านบาท
