ต้องบอกว่าเป็นความพยายามครั้งใหม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) ในการหาช่องทางทำเงินสำหรับธุรกิจสื่อบนแพลตฟอร์มของตัวเอง หลังจากที่เคยเปิดบริการ Instant Articles โดยมีพันธมิตรสื่อจำนวนมากเข้าร่วมแต่ไม่ประสบความสำเร็จมาแล้ว
โดยในครั้งนี้ เฟซบุ๊กได้ประกาศจับมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ให้เข้ามาผลิตรายการข่าวเป็นการเฉพาะบนช่องทางวิดีโอของเฟซบุ๊กอย่าง “วอทช์” (Watch) ที่บริษัทเพิ่งเปิดตัวไปนั่นเอง ส่วนรายได้ที่สถานีจะได้รับนั้นมาจากเฟซบุ๊ก และอาจมีการฉายโฆษณาคั่นกลางสำหรับบางรายการ
สำหรับรายงานข่าวที่จะปรากฏตัวจากความร่วมมือครั้งนี้ประกอบด้วย รายการข่าวรายวันจาก ABC News, ซีรีส์ “ล่าคอร์รัปชัน” จากกลุ่มผู้สื่อข่าวท้องถิ่นในอลาบามา, ช่วงสรุปข่าวจากซีเอ็นเอ็น โดย Anderson Cooper และแขกรับเชิญ, อัปเดตข่าวรายวันจากฟ็อกซ์นิวส์ โดย Shepard Smith, รายการโชว์สัปดาห์ละสองครั้งจาก Mic, รายการ Real America with Jorge Ramos ซึ่งเป็นรายการสัมภาษณ์ผู้อพยพเข้าเมืองที่มาจากแบคกราวน์ต่าง ๆ กัน
แต่หากพิจารณาจากชื่อรายการแล้วจะพบว่าไม่เน้นความบันเทิงมากนัก ซึ่งก็ต้องมารอดูกันว่าจะถูกจริตของคนใช้งานโซเชียลมีเดียหรือไม่ รวมถึงประเด็นว่า เฟซบุ๊กจะจ่ายเงินสนับสนุนการผลิตคอนเทนต์ตลอดไปหรือไม่ด้วย
เมื่อพูดถึงเรื่องทำเงินแล้ว อีกกรณีหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ เฟซบุ๊กเริ่มมีการทำเงินจากเซคชั่น “มาร์เก็ตเพลส” แล้วกับผู้ใช้งานเฟซบุ๊กบางส่วน โดยเซคชั่นนี้ ผู้บริหารเฟซบุ๊กอย่างจอห์น แวกเนอร์เคยให้สัมภาษณ์ว่าได้แรงบันดาลใจในการพัฒนามาจากแม่ค้าออนไลน์ในประเทศไทยนี่เอง
สิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาจะได้เห็นก็คือ พวกเขาสามารถจ่ายเงินบูสต์รายการสินค้าของตนเองให้คนทั่วไปได้เห็นจากนิวส์ฟีด มากไปกว่านั้น ธุรกิจที่ลงขายสินค้ายังสามารถขยายคอนเทนต์ที่ลงโฆษณาในช่องทางอื่น ๆ เช่น อินสตาแกรม, แมสเซนเจอร์ และแคมเปญโฆษณาอื่น ๆ มายังมาร์เก็ตเพลสได้ด้วย
ข้อเสียของระบบหลังบ้านที่จะมาช่วยยิงโฆษณาบนมาร์เก็ตเพลสมีข้อเดียว นั่นคือยังไม่สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ และแคมเปญจะหยุดทันทีหากสินค้านั้นขายได้แล้ว ซึ่งทางผู้ค้าส่วนหนึ่งได้มีฟีดแบ็กกลับไปยังเฟซบุ๊กว่า อยากให้เพิ่มช่องทางการเห็น “สินค้า” สามารถเข้าถึงคนที่อยู่ใกล้ ๆ กันได้ เพื่อที่ว่าการจัดส่งสินค้าจะทำได้สะดวกมากขึ้น
