Politics

รำคาญ!! ‘วิษณุ’ เปิดรายชื่อกรรมการสรรหา ส.ว. เอง

รำคาญ!! “วิษณุ” เปิดรายชื่อกรรมการสรรหา ส.ว. ลั่นไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไรที่ต้องปกปิดกัน

วิษณุ เครืองาม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเปิดเผยชื่อกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ว่า กรรมการสรรหาจะต้องตั้ง 9 คน ไม่เกิน 12 คน โดยมีคุณสมบัติเป็นกลางทางการเมือง ไม่เป็นสมาชิกหรือสังกัดพรรคการเมือง เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พิจารณาเรื่องนี้ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2561 ว่าจะตั้งใครเป็นกรรมการสรรหาสว.บ้าง และในที่สุดจึงคิดว่าเพื่อให้ได้คนที่หลากหลายจากสาขาต่างๆ และในที่สุดจึงมีคำสั่งคสช. ที่ 1/ 2562 ระบุว่ากรรมการมี 10 คน มาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือรองนายกรัฐมนตรี 5 คน ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ และตน

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า โดยพล.อ.ประวิตรเป็นประธาน ให้สรรหารายชื่อคน จากสายความมั่นคงเข้ามา อาทิ ตำรวจ ทหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง โดยเสนอมาประมาณ 50 คน, พล.อ.อ.ประจิน จะหาคนจากสายวงการการศึกษา ยุติธรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่อมวลชน 50 คน, นายสมคิด จะหาคนจากสายเศรษฐกิจ เกษตร การเงิน การคลัง การธนาคาร การลงทุน การค้า อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว 50 คน, พล.อ.ฉัตรชัย หาจากสายเกษตร สาธารณสุข และด้านที่เกี่ยวกับสังคม 50 คน ส่วนตนหาคนจากสายของกฎหมาย ระเบียบราชการ อดีตข้าราชการที่เกษียณไปแล้ว 50 คน

โดยทั้งหมดนี้ไม่เปิดรับสมัครแต่ก็ได้หลายชื่อมา ขณะเดียวกันคสช. ก็เลือกตัวแทนของคสช. มาอีก 4 คน คือ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร, พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย, พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รวมถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ในฐานะที่นายพรเพชรรู้จักสนช. หลายคน จะได้มาพิจารณาเสนอชื่อ ซึ่งในเบื้องต้น ตั้งกติกาไว้ว่ากรรมการเหล่านี้จะต้องพิจารณาจากรายชื่อ จากคนที่เป็นสนช. สปท. กรรมการปฏิรูปประเทศ กรรมการยุทธศาสตร์ฯ ที่มีอยู่หลายคณะ และให้ดูไปถึงคนที่อยู่ในวงการสภาอุตสากรรม สมาคมธนาคาร หอการค้า และนักวิชาการ รวมถึงกลุ่มอาชีพอื่นๆด้วย

“กรรมการ 10 คนหาชื่อมาได้ 500 ชื่อ แต่นายพรเพชรมาลาออก เนื่องจากไม่ได้เข้าร่วมประชุม ทำให้กรรมการสรรหา เหลือ 9 คน แต่ไม่ได้มีการตั้งใครมาเพิ่ม คณะกรรมการสรรหาจึงได้พิจารณานำรายชื่อและประวัติ โดยเปิดประชุมอย่างเป็นทางการเต็มคณะ 3 ครั้ง เป็นการประชุมที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 1 ครั้ง ที่ทำเนียบรัฐบาล 2 ครั้ง และประชุมไม่เป็นทางการอีก 3 ครั้ง ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ที่ไม่เป็นทางการเพราะไม่ครบองค์ประชุม ในที่สุดจาก 400 กว่าชื่อ ได้คัดเลือกมาได้เหลือ 395 ชื่อ ซึ่งในจำนวนนี้จะต้องมี 194 คนเป็นตัวจริงและบวกกับตัวสำรอง 50 คน จึงได้รวบรวมจัดทำบัญชี ตามลำดับ แล้วเสนอไปยังคสช. พิจารณา ซึ่งคสช. พิจารณา3ครั้ง โดยไล่เรียงทีละชื่อโดยตนเองเป็นคนอ่านรายชื่อพร้อมบอกประวัติ”

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า เมื่ออ่านถึงรายชื่อใครที่มีส่วนได้เสียอยู่ ไม่ว่าในชั้นกรรมการสรรหา หรือ คสช. คนนั้นถ้าหากออกนอกห้องประชุมได้ ท่านก็ออก หรืองดออกเสียงไม่โหวต ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้มีการจดบันทึกไว้ในรายงานการประชุมทั้งหมด แม้ว่ามีอยู่บ้างชื่อจะมีปัญหา ที่ประชุมก็มีมติเพื่อไม่ต้องเรียกประชุมอีก เนื่องจากบางคนเราไปทาบทามแล้วเขาปฏิเสธ หรือปรากฎคุณสมบัติไม่ครบ ก็ให้หัวหน้าคสช. ใช้ดุลพินิจเปลี่ยนคนนั้น ซึ่งตรงนี้มีอยู่ 4 – 5 คนเท่านั้น จนกระทั่งพิจารณารายชื่อเสร็จแล้ว ในส่วนของตัวจริงจึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูล ส่วนรายชื่อสำรองนั้นไม่ต้องกราบบังคมทูล แต่ส่งไปยังประธานสภา ตรงนี้คือที่มาที่ไปทั้งหมด

“และที่ผมชี้แจงละเอียดอย่างนี้เพราะรู้สึกรำคาญ เพราะไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไรที่ต้องปกปิดกัน แต่ก่อนหน้านี้เขากลัวกันจริงว่า จะมีการมาวิ่งเต้น แทรกแซง ซึ่งก็มีจริงๆขอให้เข้าใจ สรุปว่า กรรมการสรรหามีทั้งหมด 9 คน ความจริงต้องมี 10 คน แต่นายพรเพชรได้ลาออกไป และผมยืนยันว่าทุกครั้งในการพิจารณา ไม่มีใครเสนอชื่อตัวเองเลย มีเอกสารเก็บไว้ทั้งหมดว่าใครเสนอชื่อใคร เช่น คุณอนุพงษ์ ก็เสนอในศาลปกครอง คุณธนะศักดิ์ ก็เสนอในสายการต่างประเทศ อย่างนี้เป็นต้น” นายวิษณุกล่าว

ทั้งนี้เมื่อเปิดรายชื่อออกมาแล้ว ก็แล้วแต่ใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร แต่เป็นหน้าที่ ซึ่งบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องประกาศ เพราะสังคมเรียกร้อง และในความเป็นจริงก็ต้องเปิดเผย ทั้งที่ในความเป็นจริงรายชื่อกรรมการสรรหา ส.ว.นี้ เราได้ส่งไปให้ ประธานสภา นานพอสมควรแล้ว รวมทั้งส่งไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็นานพอสมควรเนื่องจาก มีผู้ร้องเรียน จึงให้ชี้แจงรายละเอียด ซึ่งก็ได้ตอบไปหมดแล้วตามรายละเอียดที่ตนได้เล่าให้ฟังนี้

Avatar photo