หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จจากการเป็นผู้จัดละคร “เจ้าเวหา” แถมถูกกล่าวหาโกงค่าตัวนักแสดง จนต่อมา “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” ต้องออกมายืนยันว่าบริษัทได้เคลียร์เรื่องเงินค่าตัวไปหมดแล้ว และยื่นฟ้อง บริษัท บลูริบบอน ในข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท เหตุทำให้ตนและบริษัทเกิดความเสียหาย
ในวันนี้ 10 มิถุนายน อั้มก็ได้หวนกลับมาเป็นผู้จัดอีกครั้ง พร้อมเปิดใจในงานบวงสรวงเปิดกล้องละคร “เล่ห์เกมรัก” ณ Apothecary Studio ซอยพหลโยธิน 40 แยก 1 ของบริษัท เอลิสต์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซึ่งในครั้งนี้ จะมีโอกาสนำละครไปฉายที่ต่างประเทศด้วย โดยเผยว่าเรื่องคดีเคลียร์จบแล้ว คู่กรณีต้องลงขอโทษและชดใช้ค่าเสียหาย
“จริงๆ ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นผู้จัดซะทีเดียวนะครับ เพราะจะมีทางคุณแตนที่เป็นผู้จัดการของคุณนัทและผมดูแลโปรเจกต์ทั้งหมด ผมก็จะเป็นคนที่ดูแลในส่วนของบริษัท เอลิสต์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ครับ”
“การที่ได้ร่วมงานกับแฟลตฟอร์มที่ได้ไปฉายต่างประเทศ ถามว่าโตขึ้นมั้ย ผมว่าก็คงจะเท่าเดิม เพียงแต่ว่าในยุคสมัยนี้คอนเทนต์มันค่อนข้างหลากหลายและไปได้ทุกที่ เราก็มองว่าเราก็อยากให้คอนเทนต์ของไทยเรา โดยเฉพาะวงการบันเทิงไทยเรา คนที่ทำงานวงการบันเทิงไทยเราก็ถือเป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่คนจีนชื่นชอบ รวมถึงได้มองว่าเรื่องนี้ทำเพื่อที่จะได้ไปฉายในช่องเทนเซ็นต์วิดีโอ ซึ่งจะมีผู้ชมชาวจีนติดตามชมประมาณ 8-9 ร้อยล้านคน คือเทนเซ็นต์วิดีโอจะเป็นช่องวิดีโอหลักของประเทศจีนในตอนนี้ จริงๆ ไม่ได้ใหญ่มาก เราก็ทำละครเหมือนเดิม แต่เราคาดหวังว่าคนดูที่ชื่นชอบอยู่แล้วอาจจะมีโอกาสได้เห็นเสน่ห์และความสามารถของคนไทยเรามากขึ้น ถามว่าเป็นการถีบตัวหนีจากอุตสาหกรรมแบบเดิมๆ ไหม ไม่ได้ถึงขั้นถีบตัวหนีหรอกครับ เราก็ยังผลิตในเมืองไทย รวมถึงเรื่องนี้ก็อาจจะมีโอกาสที่เหมาะสมที่อาจจะได้ฉายในเมืองไทยไปด้วย”
ส่วนเรื่องคดีความนั้น อั้มกล่าวว่า จบทุกอย่างแล้ว พอใจการเจรจาจากคู่กรณี “คือต้องขออนุญาตบอกก่อนว่าในคดีความทั้งหมด เราได้มีการยื่นฟ้องทุกอย่างทางฝั่งจำเลย ได้มีการขอเจรจาทั้งหมด เราถือว่าข้อเสนอเจรจาอยู่ในขั้นตอนที่เราพอใจ ไม่ว่าจะเป็นการลงขอโทษเอง แต่เดี๋ยวต้องรอดูว่าจะลงเมื่อไหร่ เรื่องข้อตกลงได้ลงขอโทษ และจ่ายค่าเสียหาย มีแค่สองอย่างครับ ก็พึงพอใจครับ ตอนแรกก็จะมีข้อเสนอนึง แต่พออ่านเราก็มองว่าเอาที่ทำได้ แล้วก็ไม่ไปกดดันกันมากจนเกินไป ถ้าเกิดรู้สึกผิดและสิ่งที่ทำคืออะไร แล้วแก้ไขในสิ่งนั้น ผมโอเค จริง ๆ ยืดเยื้อมา 2 ปีกว่าแล้ว และถ้าตามดีลวัน ประมาณปลายเดือนมิถุนายนนี้ครับที่กำหนดกันไว้ว่าจะต้องมีการลงขอโทษจัดการในส่วนที่ตกลงกันไว้ให้เรียบร้อย ถ้าไม่เรียบร้อยไม่ได้ตามนั้นจะแจ้งอีกทีครับ”