ซิสเต็มส์สโตน สตาร์ทอัพดีแทค แอคเซอเลอเรท batch 7 รับเงินลงทุนจาก Expara Thailand ผู้บริหารกองทุนออมสิน เล็งปีหน้ารุกอาเซียน เจาะบริการระบบซ่อมบำรุงโรงงาน 400,000 แห่ง
นายสิทธิกร นวลรอด ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งซิสเต็มส์สโตน สตาร์ทอัพดีแทค แอคเซอเลอเรท batch 7 สายเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทได้รับเงินลงทุนจาก Expara Thailand บริษัทร่วมลงทุนชั้นนำของอาเซียน ผู้บริหารกองทุน SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสิน กองที่ 2 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารออมสินและตลาดหลักทรัพย์ โดยการเข้าลงทุนในครั้งนี้ เพื่อขยายตลาด เพิ่มยอดขายและก้าวขึ้นสู่ผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงเบอร์หนึ่งของประเทศไทย
ทั้งนี้ ซิสเต็มส์สโตน เติบโตขึ้นท่ามกลางความท้าทายของเทรนด์อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งอุตสาหกรรมทั่วโลกต่างมองหาโซลูชั่นที่จะเข้ามาช่วยสร้างความแตกต่างและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ สิ่งหนึ่งที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญก็คือการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชั่น แพลตฟอร์ม เพื่อสนับสนุนให้วิศวกรและผู้ปฏิบัติงานในโรงงานสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะด้านการซ่อมบำรุงเครื่องจักรได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวขึ้น เสริมศักยภาพในการทำงาน ยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมไปสู่ยุค ดิจิทัล แฟคตอรี่ และการทำงานในยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งประหยัดต้นทุนและเวลา
“เมื่อเราสามารถอัพเกรดภาคอุตสาหกรรมไปสู่ดิจิทัล แฟคตอรี่ได้แล้ว การเชื่อมโยงและสร้างอีโคซิสเต็มร่วมกันก็สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งนั่นจะเป็นเป้าหมายหลักในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ยุค 4.0”นายสิทธิกรกล่าว
นอกจากการรับเงินลงทุนดังกล่าวมาเพื่อขยายตลาดในประเทศไทยแล้ว บริษัทยังเตรียมขยายตลาดสู่ต่างประเทศในปีหน้า รวมไปถึงการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาโซลูชั่นด้านอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม
สำหรับการขยายตลาดในประเทศไทยนั้น จะเน้นเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นหลัก มีลูกค้าในกลุ่มของบริษัทยักษ์ใหญ่อาทิ ซีพีเอฟ, คูโบต้า, โออิชิ, พีเอฟพี, ดาว ประเทศไทย และอีกกว่า 50 องค์กร โดยในปีนี้มีแผนเพิ่มฐานลูกค้าอีก 100 โรงงานผ่านดีลเลอร์ที่มีอยู่ 7 ราย และผ่านการสนับสนุนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทั้งยังเน้นการจัดกิจกรรมทางการตลาดและการเพิ่มดีลเลอร์และพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มต่างๆ
ขณะเดียวกันจะมีการเปิดตัวสินค้าและบริการด้านอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ สำหรับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาเครื่องจักรไปอีกขั้นหนึ่ง รวมทั้งช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของบริษัทไปสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีการบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงเครื่องจักรในระดับประเทศ และระดับอาเซียนต่อไป โดยซิสเต็มสโตน ยังมีโอกาสทางการตลาดในกลุ่มลูกค้า อีกกว่า 90% ของโรงงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีมากกว่า 400,000 โรงงาน ดีลการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้ ซิสเต็มสโตน ดำเนินธุรกิจบรรลุเป้าหมายไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ปัจจุบันสิ่งที่โรงงานอุตสาหกรรมกำลังกังวลอย่างมากก็คือเรื่องของการลดต้นทุนการดูแลรักษาและการเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ เครื่องจักร ซึ่งบริษัทซิสเต็มสโตนสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ ด้วยซอฟแวร์ที่จะช่วยลดระยะเวลาเสียของเครื่องจักร ลดต้นทุนการดำเนินการและต้นทุนการซ่อมบำรุง เช่นระบบไอโอทีที่จะช่วยลดความผิดพลาดของคน ช่วยลดการลงทุนในอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักรได้อีกกว่า 4-5%
นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท กล่าวว่า ซิสเต็มสโตน เป็นสตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (Industrial Tech) เฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ที่เข้าไม่ถึงคนหมู่มาก ไม่เซ็กซี่และเข้าใจยาก แต่มีเม็ดเงินในอุตสาหกรรมนี้เยอะมากๆ มีตัวเลขประมาณการออกมาเป็นหลักแสนล้านบาทต่อปี และยังเป็นอุตสาหกรรมที่ยังไม่ค่อยมี สตาร์ทอัพเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาเหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆ
