นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าหลังจากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆ ได้โหวตพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยภายใต้เงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์ ใน 3 เรื่องที่เปิดเผยต่อสาธารณชน
1.พรรคเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย
2.ให้รับนโยบายการประกันรายได้สินค้าการเกษตรของพรรคไปเป็นนโยบาย
และ3.การบริหารราชการแผ่นดินรัฐบาลชุดนี้จะต้องไม่มีการทุจริต ถ้ามีการทุจริตพรรคก็พร้อมที่จะถอนตัวออกจากรัฐบาล
ส่วนเงื่อนไขที่ 4 เป็นเงื่อนไขที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะชน นั้นคือโควตารัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ยื่นข้อเสนอว่าถ้าให้พรรคแก้ปัญหาพืชผลการเกษตรให้มีคุณภาพ และได้ราคาตามที่ประกันรายได้การเกษตร คือ ปาล์มมีราคากิโลกรัมละไม่น้อยกว่า 4 บาท ยางพารากิโลกรัมละ 60 บาท จะต้องให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปบริหารใน 2 กระทรวงหลัก
1.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อส่งเสริมการผลิต รับผิดชอบในการผลิตสินค้าการเกษตร
2.กระทรวงพาณิชย์ เป็นกระทรวงที่เกี่ยวกับการขาย การนำสินค้าที่ผลิตจากประชาชนไปขายทั้งในและต่างประเทศ ถ้าไม่ให้ 2 กระทรวงหลักนี้ เราก็เชื่อว่าไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาราคาสินค้าการเกษตรของประชาชนได้
นายเทพไท กล่าวว่าวันนี้มีข่าวว่าแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเอากระทรวงหลัก 2 กระทรวงหลักคืน จึงอยากจะบอกว่าถ้าเอา 2 กระทรวงนี้คืนเท่ากับเป็นการผิดสัญญาเงื่อนไขที่เคยมีให้กับพรรคประชาธิปัตย์ 4 เงื่อนไขนี้เป็นเงื่อนไขในที่ประชุมส.ส. และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ได้พิจารณา หลักเกณฑ์และการตัดสินใจที่จะเข้าร่วมรัฐบาล เมื่อเงื่อนไขใด เงื่อนไขหนึ่ง ใน 4 ข้อ ผิดข้อตกลงแน่นอนที่สุดว่าประชาธิปัตย์จะต้องเสนอเงื่อนไขเหล่านี้ กลับมาพิจารณาใหม่ในที่ประชุมส.ส.อีกครั้ง
ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะคิดว่ามัดมือชก และคิดว่าได้นายกรัฐมนตรีไปแล้วไม่แคร์พรรคร่วมรัฐบาล ส่วนตัวผมอยากบอกว่า มันไม่ง่ายอย่างที่คิด และเราเชื่อว่าถ้าคุณผิดสัญญาตั้งแต่ต้น ไม่มีหลักประกันใดว่าจะผิดสัญญาอีกต่อไป ผมเชื่อว่าประชาธิปัตย์จะต้องทบทวนในที่ประชุมส.ส. และกรรมการบริหารพรรค กับเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน” นายเทพไท กล่าว