Sport

‘ช้างศึก’ พร้อมบู๊ ‘อินเดีย’ ชิงที่ 3 คิงส์คัพ 8 มิ.ย.

ทีมชาติไทย และ ทีมชาติอินเดีย ร่วมแถลงความพร้อมก่อนทำศึกชิงอันดับ 23 ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ที่โรงแรมครอสทู ไวบ์ จังหวัดบุรีรัมย์

S 20217962

ทัพ “ช้างศึก” ส่งศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และ ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้า ร่วมแถลงข่าว ขณะที่ อินเดีย ส่ง อิกอร์ สติมัช กุนซือชาวโครเอเชีย และ ซานเดช จินกาน กองหลังของทีม เข้าร่วม

ช้างศึก ในฐานะเจ้าภาพ พ่าย เวียดนาม 0-1 ชิงอันดับที่ 3 กับ อินเดีย ที่แพ้ คูราเซา 1-3 โดย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กล่าวว่า “จากเกมแรกที่เราเจอเวียดนาม เรากลับมาแก้จุดบกพร่องที่เกิดขึ้นกับทีม ตอนนี้เราพร้อมเต็มที่ในการเจอกับอินเดีย”

“พรุ่งนี้เราจะมีปรับเปลี่ยนผู้เล่นบ้าง ธีรศิลป์ตอนนี้สมบูรณ์เต็มร้อยแล้ว เราจะมีการเพิ่มเติมตรงจุดนี้ รวมถึงแก้ไขวิธีการการสร้างเกมรุก”

“เกมหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นแน่นอน แต่คงไม่มากนัก การเปลี่ยนตัวสำรองลงไปนั้นต้องดูตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเกม ทุกคนมีโอกาสถูกเรียกใช้ ผมพร้อมให้โอกาสน้องๆ อยู่แล้ว แต่ต้องดูความเหมาะสมด้วยว่า เราควรใช้เขาตอนไหน”

เมื่อถูกถามว่า พรุ่งนี้ทีมชาติไทยจะเปิดเกมรุกใส่ตั้งแต่แรกเลยหรือไม่ ศิริศักดิ์ก็ตอบว่า “คงเป็นอย่างนั้น แต่เราต้องดูสภาพอากาศด้วย เพราะบ่ายสามโมงครึ่งนั้นค่อนข้างร้อน ถ้าเรารุกโดยที่ไม่ผ่อนเลยก็อาจส่งผลเสียต่อนักเตะ แต่เราจะเปิดเกมรุกเต็มที่อยู่แล้ว”

S 20217964

ส่วน ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าวัย 20 ปี กล่าวว่า “หลังจากเจอกับเวียดนาม เราก็กลับมาทบทวบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ตอนนี้เราก็โฟกัสไปกับเกมพรุ่งนี้ และจะทำผลงานให้ดีที่สุด”

“เราเคยเจอกับอินเดียมาแล้วในเอเชียน คัพ พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เราจะประมาทไม่ได้ ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้ พี่ๆ ในทีมทุกคน รวมถึงผมจะพยายามโฟกัสเกม เพื่อการคว้าผลการแข่งขันที่ดี เราได้เปรียบที่ลงเล่นในประเทศของเรา ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้เราจะได้ผลการแข่งขันที่ดี”

นอกจากนี้ ศูนย์หน้าวัย 20 ปี ยังพูดถึงกัปตันทีมอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ว่า “พี่มุ้ยพูดกับทีมก่อนการประชุมทีม เขาพูดให้กำลังใจน้องๆ เขาบอกนักเตะที่มาจากแต่ละสโมสรว่า ให้เรารวมกันเป็นหนึ่ง ให้เราช่วยกันเล่นเพื่อทีมชาติไทย เพื่อแฟนบอลทุกคน และบอกให้เราโฟกัสในเกมๆ นั้น”

ขณะที่ อิกอร์ สติมัช อดีตดาวเตะทีมชาติโครเอเชียที่เพิ่งเข้ามารับงานกุนซือทีมชาติอินเดีย กล่าวว่า “หลังผ่านเกมที่ยากกับคูราเซามา สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการคืนสภาพร่างกายให้พร้อมมากที่สุดในเกมวันพรุ่งนี้”

“สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเข้ามาร่วมการแข่งขันรายการนี้ คือการได้เจอกับทีมระดับท็อป เรารู้ดีว่า การได้เจอกับทีมชาติไทยนั้นยากแค่ไหน แม้เราจะเคยเล่นกับพวกเขามาแล้ว แต่โค้ชของไทยก็เปลี่ยนไปจากเดิม ฉะนั้นวิธีการเล่นก็จะเปลี่ยนไปด้วย นี่จึงเป็นสิ่งที่ยากของเรา”

“อย่างไรก็ตาม การจะทำให้ทีมชาติของเราประสบความสำเร็จ ต้องใช้เวลา เราอาจไม่ได้คาดหวังในผลการแข่งขันพรุ่งนี้มากนัก สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาสภาพผู้เล่น เพื่อการลงเล่นอินเตอร์คอนทิเนนทัล คัพ ซึ่งเป็นรายการที่สำคัญของเรา แน่นอนเราอยากคว้าชัยชนะ แต่ในฐานะโค้ช ไม่มีใครอยากปวดหัวเรื่องอาการบาดเจ็บหลังจบการแข่งขัน”

“มันเป็นเรื่องยากสำหรับเรา ที่จะเปลี่ยนสไตล์การเล่นแบบทันทีทันใดหลังเปลี่ยนโค้ช ผมเชื่อว่าช่วงแรกเราอาจจะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดจากการพ่ายแพ้ไปก่อน ซึ่งทั้งเราและแฟนบอลต้องก้าวผ่านมันไป แต่ผมเชื่อว่าอนาคตในทีมชาติของเราจะเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งมาจากการสนับสนุนที่ดี ผมต้องการจะปลุกให้แฟนบอลเชียร์ทีมชาติอินเดียของเราไปด้วยกัน ให้ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมอันดับต้นๆ ในประเทศให้ได้”

S 20217959
อิกอร์ สติมัช

“เกมกับคูราเซา ผมส่งดาวรุ่งลงไปถึง 7 คน นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามจะบอกว่า อนาคตของเราอยู่กับเยาวชน พร้อมกับให้นักเตะมากประสบการณ์อย่างสุนิล และคนอื่นๆ คอยประคองทีม ด้วยศักยภาพของทีมในตอนนี้ ผมเชื่อว่าเรามาถูกทางแล้ว ในช่วงแรกเราอาจต้องพบกับความพ่ายแพ้ แต่ในอนาคต เราจะกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งในระดับเอเชียได้แน่นอน”

“ในการจัดทีม ผมบอกกับนักเตะทุกคนเสมอว่า ผมต้องการให้โอกาสทุกคน คนที่เล่นได้ดีในเกมแรก ก็มีโอกาสจะได้ลงเจอกับทีมชาติไทยอีก เช่นเดียวกับคนที่ทำผลงานได้ดีในสนามซ้อม ผมก็อาจจะส่งพวกเขาลงเช่นกัน”

“ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า นี่คือการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม คิงส์คัพเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พาอินเดียมาลงแข่ง ผมขอขอบคุณฝ่ายจัดการแข่งขัน สตาฟฟ์ ทีมงานเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้การต้อนรับ ทุกๆ คนในไทยที่ให้การต้อนรับเรา ผมขอขอบคุณทุกคนจริงๆ”

ส่วนทาง ซานเดช จินกาน ดาวเตะของทีมชาติอินเดีย กล่าวว่า “เราเคยเจอกับไทยมาแล้วในเอเชียน คัพ ซึ่งตอนนั้นเราได้ผลการแข่งขันที่ดี แต่แน่นอนว่า การมาเล่นกับพวกเขาที่บ้านมันย่อมต่างไป แต่เราจะเล่นด้วยคาแร็คเตอร์และความมุ่งมั่นที่เต็มร้อยเหมือนเดิม เราจะสร้างผลการแข่งขันที่ดีในวันพรุ่งนี้ให้ได้”

สำหรับ ทีมชาติไทย เคยพบกับ ทีมชาติอินเดีย ทั้งหมด 22 นัด ในเกมอย่างเป็นทางการที่ ฟีฟ่า รับรอง ปรากฎว่า ทำผลงานได้ดีกว่าชัดเจน เมื่อชนะ 11 เสมอ 6 และแพ้ 5 นัด แต่ล่าสุดที่พบกัน ช้างศึก เป็นฝ่ายพ่ายไปด้วยสกอร์ 1-4 ในเอเชียนคัพ 2019 รอบสุดท้าย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)

โดยแฟนบอล สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งหน้าเคาน์เตอร์ และระบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com

โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 วันที่ 8 มิถุนายน 2562 โดยทุกนัดจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32

15.30 น. คู่ชิงอันดับ 3 ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินเดีย

19.45 น. คู่ชิงชนะเลิศ ทีมชาติเวียดนาม พบ ทีมชาติคูราเซา

Avatar photo