หลังจากเกิดปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่ไม่สามารถแบ่งโควตากระทรวงให้กัลกลุ่มต่างๆภายในพรรคได้ จนเกิดกระแสเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลที่ได้โควตาไปก่อนหน้านี้ทั้งพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)และพรรคภูมิใจไทย คืนกระทรวงที่ได้รับกลับมาเกลี่ยกันใหม่ โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม
ข้อเรียกร้องดังกล่าวของแกนนำพรรคประชารัฐ สร้างความไม่พอใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์อย่างมาก กระทั่งนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ต้องออกมายืนยัน ถึงการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า การประสานงานในรายละเอียดกับพรรคแกนนำนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ปชป. ยืนยันต่อที่ประชุมร่วมกัน ระหว่างกรรมการบริหาร (กก.บห.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อครั้งก่อนว่าเสร็จสิ้นและทุกอย่างเป็นข้อยุติแล้ว ต้องถือว่าการตอบรับทั้ง 3 ข้อ เป็นสาระสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ
ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าความไม่ลงตัวในการจัดสรรโควตารัฐมนตรีของพรรค กำลังส่งผลกระทบต่อโควตาของพรรคร่วม ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคเกิดความไม่พอใจ
“สถานการณ์ตอนนี้ผู้ใหญ่ที่ไปตกลงไว้ก่อนหน้านี้ยืนยันที่จะไม่เปลี่ยนโควตารัฐมนตรีเดิม จนเป็นเหตุทำให้มีการเสนอว่าหากยังวุ่นวาย มีการปล่อยข่าว และเรียกร้องที่่จะให้พรรคร่วมคืนกระทรวงเศรษฐกิจที่ยกให้ไปแล้วมาเกลี่ยใหม่ ทางผู้ใหญ่ในพรรค มีการพูดคุยกันว่าหากมีปัญหามาก อาจต้องตัดโควตารัฐมนตรีในส่วนที่กำลังเป็นปัญหาออกไปเลย”แหล่งข่าว กล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่เสนอให้กระทรวงไปแล้วจะมาขอคืน เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จะยิ่งสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลภายหลัง การสร้างแรงกดดันที่ปรากฎอยู่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง “ตอนนี้ผู้ใหญ่ในพรรครู้ดีว่า กลุ่มไหนสร้างกระแสและปล่อยข่าวออก เชื่อว่าอีกไม่กี่วันก็สามารถจัดการได้ รวมถึงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคว่าใครจะได้ตำแหน่งไหนบ้าง”แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่าในส่วนของ 4 รัฐมนตรีของพรรคที่ลาออกมาก่อนหน้านี้ เพื่อช่วยเหลือทางการเมือง ยอมรับว่ายังมีความไม่ชัดเจนว่าจะมีตำแหน่งรัฐมนตรีให้หรือไม่ เรื่องนี้สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่า ยังไม่ทราบ แต่ทั้งหมดจะยังคงทำงานที่พรรคเช่นเดิม การทำงานทางการเมืองเป็นได้หลายรูปแบบ
ดังนั้นสถานการณ์ที่เจรจาขอเกลี่ยหรือคืนโควตากระทรวงกับพรรคร่วมไม่เป็นความจริงใดๆทั้งสิ้น “นายกฯเองก็รับทราบโควตากระทรวงที่เสนอให้กับพรรคร่วมไปแล้ว ซึ่งท่านก็เห็นด้วยแล้ว ดังนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน”แหล่งข่าว ระบุ
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่าในส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะอยู่ร่วมรัฐบาลหรือไม่ ยังไม่ได้มีหารพูดคุยกัน แต่ไม่แน่ใจว่าตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีจะมีชื่อนายสมคิดหรือไม่ เพราะตรงนี้ยังไม่ได้มีการวางตำแหน่ง เช่นเดียวกับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค อาจจะมีแค่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าที่พรรคที่อาจจะได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่วนนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะได้ตำแหน่งอะไร
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่าในส่วนของกลุ่มนายสมคิด หากตัดสินใจที่จะไม่ร่วมบริหารงานต่อกับรัฐบาล เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ อาจจะส่งผลต่อทีมงานบางคนที่จะไม่ร่วมรัฐบาลด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร แต่สำหรับนายสมคิด ก็เคยเปรยๆไว้ตลอดว่าอยากจะพักเพราะสุขภาพไม่ดี แต่ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับการหารือในพรรคอีกครั้ง คาดว่าจะจบเร็วๆนี้ซึ่งจะต้องดำเนินการให้เสร็จก่อนการประชุมการประชุมอาเซียน ซึ่งไทยเป็นประธานระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2562
ขณะที่แหล่งข่าวจากประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมคืนกระทรวงที่เคยมีการตกลงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ข้อเสนอที่ขอแลก กระทรวงพาณิชย์หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แลกกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงศึกษาธิการ เป็นข้อเสนอเก่าซึ่งทางพรรคไม่เห็นด้วย เรื่องนี้จบไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากยังมีกระแสกดดันที่จะให้คืนโควตากระทรวงใหม่ ทางพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย ทุกคนยืนยันที่จะไม่เจรจาอะไรอีกแล้ว การเสนอให้โควตากระทรวงมันจบไปก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว และเชื่อว่าเร็วๆนี้ทุกอย่างน่าจะลงตัว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นปัญหาภายในพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์
