Business

เปิดพอร์ต ‘MINT’ อาณาจักรธุรกิจแสนล้าน

บริษัท Minor International จำกัด (มหาชน) หรือ MINT หากเป็นคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักลงทุนในตลาดหุ้น อาจไม่คุ้นกับชื่อนี้เท่าไหร่นัก แต่ถ้าพูดถึงแบรนด์ The Pizza Company, Swensens, Sizzler, Burger King, โรงแรมอนันตรา, ESPIRIT, GAP หรือ Anello เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักเป็นอย่างดี

ใช่แล้วครับทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น คือ แบรนด์ในเครือของ MINT นั่นเอง และนี่เป็นแค่บางส่วนของอาณาจักรระดับแสนล้านนี้เท่านั้น

ไมเนอร์

รู้จักแบนด์ชื่อดังในเครือ MINT

MINT มีโครงสร้างธุรกิจหลักแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ โรงแรม-อสังหาริมทรัพย์, ร้านอาหาร และแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สิน 2.64 แสนล้านบาท ประกอบด้วย

1. ธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ (ไมเนอร์ โฮเทลส์)

มีโรงแรม รีสอร์ท และศูนย์การค้ารวมกว่า 510 แห่งใน 64 ประเทศทั่วโลก ภายใต้แบรนด์อนันตรา, อวานี, โอ๊คส์, ทิโวลี, เอเลวาน่า, เอ็นเอช คอลเลคชั่น, เอ็นเอช โฮเทลส์, นาว, แมริออท, โฟร์ซีซั่นส์, เซ็นต์ รีจิส และเรดิสัน บลู

ธุรกิจโรงแรม

2. ธุรกิจร้านอาหาร (ไมเนอร์ ฟู้ด)
เป็นผู้ดูแลแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังรวมกันมากกว่า 2,200 แห่งใน 27 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, เดอะ คอฟฟี่ คลับ, ริเวอร์ไซด์, ไทย เอ็กซ์เพรส, เบนิฮานา, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เลอร์, แดรี่ ควีน และเบอร์เกอร์ คิง

ธุรกิจร้านอาหาร

3. ธุรกิจแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ (ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์)
ดูแลแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เช่น สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ กว่า 490 แห่งดังนี้ อเนลโล่, โบเดิ้ม, บอสสินี่, บรูคส์ บราเธอร์ส, ชาร์ล แอนด์ คีธ, เอสปรี, เอแตม, โจเซฟ โจเซฟ, โอวีเอส, แรทลีย์, เซฟ มาย แบค, สโกมาดิ, สวิลลิ่ง เจ.เอ. เฮ็งเคิลส์ และไมเนอร์ สมาร์ท คิดส์

ธุรกิจไลฟ์สไตล์

ภาพรวมธุรกิจของ MINT

สำหรับ 3 รายได้หลักของ MINT มาจากธุรกิจโรงแรม 64% ธุรกิจอาหาร 30% และธุรกิจไลฟ์สไตล์อีก 6% โดยผลประกอบการย้อนหลัง 4 ปีที่ผ่านมา เป็นดังนี้

ฐสนธุรกิจ
ปี 2558 รายได้ 48,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.67% กำไรสุทธิ 7,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.92%
ปี 2559 รายได้ 56,973 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.65% กำไรสุทธิ 6,590 ล้านบาท ลดลง 6.39%
ปี 2560 รายได้ 58,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.93% กำไรสุทธิ 5,415 ล้านบาท ลดลง 18.33%
ปี 2561 รายได้ 79,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.27% กำไรสุทธิ 5,445 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.55%

ผลประกอบการ
สังเกตว่าแม้รายได้ของ MINT จะเติบโตในระดับที่น่าพอใจ อย่างไรก็ดีกำไรสุทธิกลับลดลง แม้ล่าสุดปี 2561 จะกลับมาเป็นบวกได้เล็กน้อย

สิ่งที่ MINT กำลังเจอคงเป็นเรื่องที่บริษัทขนาดใหญ่มักจะเป็นเหมือนกัน คือเมื่อพวกเขาเติบโตมาเป็นเวลานานจนค่อนข้างอิ่มตัวแล้ว แรงผลักดันต่างๆ ก็มักเริ่มแผ่วลง

หาความท้าทายใหม่สู่ Global Company เต็มตัว

ความท้าทายใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งที่ MINT มองหา โดยตั้งเป้าหมายกำไรโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปีให้ได้ ผ่านกลยุทธ์เน้นธุรกิจสู่ Global Company เพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งบริษัทจะลดการพึ่งรายได้ในไทยให้เหลือแค่ 1 ใน 3 จากปัจจุบันที่มีรายได้ในไทยประมาณ 45%

เห็นได้ชัดจากแผนลงทุนที่ MINT เดินหน้าซื้อกิจการร้านอาหารและโรงแรมในหลายประเทศ และล่าสุดมื่อปี 2561 ที่ซื้อหุ้น 45% ของ NH Hotel Group SA. (NHH) ซึ่งมีโรงแรมในยุโรป อเมริกา และอเมริกาใต้

การลงทุนครั้งนี้เป็นมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 100,000 ล้านบาทหากซื้อหุ้นครบ 100% นับเป็นตัวเลขมากสุดในประวัติศาสตร์บริษัท

ทั้งนี้ ต้องคอยลุ้นกันว่าการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ อย่างจริงจังของ MINT จะทำให้ยักษ์ใหญ่ตัวนี้ กลับมาสร้างความเติบโตอย่างที่หวังได้หรือไม่

Avatar photo