ตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย ช่วงเช้าวันนี้ (6 มิ.ย.) เคลื่อนไหวเบาบาง เหตุนักลงทุนวิตกว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ กับเม็กซิโก จะยิ่งทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกซบเซาหนักขึ้น แม้จะคาดหวังว่า ธนาคารกลางชาติต่างๆ จะต้องออกมารับมือกับเรื่องดังกล่าว ด้วยการออกมาตรการอัดฉีดใหม่ๆ ก็ตาม
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดปรับขึ้นมา 33.74 จุด หรือ 0.16% มาอยู่ที่ 20,809.84 จุด ดัชนัหั่งเส็ง ของฮ่องกงขยับลงมา 20.24 จุด หรือ 0.08% ที่ 26,875.20 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน ลดลง14.53 จุด หรือ 0.51% ที่ 2,846.89 จุด และดัชนีสเตรมไทมส์ ของสิงคโปร์ ขยับขึ้น 2.30 จุด หรือ 0.07% ที่ 3,144.67 จุด
นักวิเคราะห์ชี้ว่า บรรยากาศในตลาดเต็มไปด้วยความระมัดระวังตัว หลังการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐ กับเม็กซิโก ไม่มีสัญญาณถึงความคืบหน้าใดๆ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ทวีตว่า การหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ของ 2 ประเทศในเรื่องผู้อพยพ มีความก้าวหน้าบางส่วน แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้สหรัฐยุติการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกได้
บรรดานักลงทุนวิตกว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐ กับเม็กซิโก จะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ที่ชะลอการเติบโตอยู่แล้ว
เมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดที่ 25,539.57 จุด เพิ่มขึ้น 207.39 จุด หรือ 0.82% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,826.15 จุด เพิ่มขึ้น 22.88 จุด หรือ 0.82% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 7,575.48 จุด เพิ่มขึ้น 48.36 จุด หรือ 0.64%
ตลาดสหรัฐได้แรงหนุนจากความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนธันวาคมนี้ หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุดไม่ค่อยดีนัก ด้วยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนในเดือนพฤษภาคม ที่น้อยสุดนับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ร่วงลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 51.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 60.63 ดอลลาร์บาร์เรล
ส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม พุ่งขึ้นถึง 4.90 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,333.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
