ตลาดหุ้นสหรัฐ เปิดซื้อขายวันนี้ (5 มิ.ย.) ปรับตัวสูงขึ้น หลังข้อมูลแสดงให้เห็นว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ภาคเอกชนมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นน้อยสุดนับตั้งปี 2553 ทำให้เกิดความหวังมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ยลงมา เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุด ปรับขึ้น 131.78 จุด หรือ 0.52% มาอยู่ที่ 25,463.96 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้นมา 12.24 จุด หรือ 0.44% ที่ 2,815.51 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับขึ้น 18.63 จุด หรือ 0.25% มาอยู่ที่ 7,545.75 จุด
รายงานเอดีพีการจ้างงานแห่งชาติ ของสหรัฐ แสดงให้เห็นว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ตำแหน่งงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 27,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งอย่างมาก
ข้อมูลดังกล่าวทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นว่า เฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยลงมาต่อเนื่องไปถึงเดือนธันวาคมอย่างน้อย 0.75%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ข้อมูลการจ้างงานที่ออกมา ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเพิ่มมากขึ้น จากการขึ้นภาษีนำเข้า และทำให้การลดดอกเบี้ยมีความเป็นไปได้มากขึ้น สถานการณ์ที่ช่วยหนุนความรู้สึกในตลาดให้ดีขึ้น
รายงานการจ้างงานข้างต้น เปิดเผยออกมาเพียงวันเดียวหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะดำเนินการตอบสนองต่อความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากการทำสงครามการค้าโลกอย่างเหมาะสม ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์มากขึ้นถึงการลดดอกเบี้ยดังกล่าว
ดัชนีย่อยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ปรับตัวขึ้นมา 1.36% เป็นแกนหลักที่ช่วยหนุนตลาด ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้ ยังได้แรงหนุนจากราคาหุ้นแอปเปิ้ล อิงค์ และไมโครซอฟท์ คอร์ป ที่ขยับขึ้นมาเกือบ 2%