“กนอ.” โชว์ผลงานยอดขาย-เช่าที่ดินนิคมฯ 6 เดือนปีนี้ กว่า 1,300 ไร่ เพิ่มขึ้น 5.25 % ดึงเม็ดเงินลงทุนกว่า 8.5 พันล้าน ชี้ปัจจัยบวกนักลงทุนตัดสินใจใช้พื้นที่อีอีซีเป็นฐานการผลิตเพิ่มขึ้น
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่าภาพรวมการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การดูแลของ กนอ.ทั้งนิคมฯบริหารงานเอง และนิคมฯ ร่วมดำเนินงานในพื้นที่นิคมฯ จำนวน 55 แห่ง 16 จังหวัด รวมพื้นที่ประมาณ 165,608 ไร่ มีนิคมฯที่เปิดดำเนินการแล้ว 49 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาเปิดดำเนินการอีก 6 แห่ง 1.นิคมฯ อมตะชิตี้ (โครงการ 2) 2.นิคมฯ ดับบลิวเอชเอระยอง 36 3.นิคมฯ ปิ่นทอง (โครงการ 4) 4.นิคมฯยามาโตะอินดัสทรีส์ 5.นิคมฯหนองคาย 6.นิคมฯสงขลา รวมพื้นที่เพื่อขาย/เช่า ประมาณ 109,884 ไร่ ปัจจุบันมีพื้นที่ขาย/เช่าแล้ว 90,222 ไร่ เหลือพื้นที่ขาย/ให้เช่า ประมาณ 19,662 ไร่ เกิด เงินการลงทุนในนิคมฯสะสมรวมอยู่ที่ 3,827,908 ล้านบาท มีการจ้างงานรวม 479,583 คน
จากนโยบายการพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ของรัฐบาล กับโครงการลงทุนต่างๆ ซึ่งมีความคืบหน้ามาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาท่าเรือฯมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นขยายการลงทุนในนิคมฯเพิ่มขึ้น เห็นได้จากผลการดำเนินงานของ กนอ.ในรอบ 6 เดือน (ต.ค.61-มี.ค.62) มียอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมฯ อยู่ที่ 1,339 ไร่ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ต.ค.60-มี.ค.61) จำนวน 525 ไร่ คิดเป็น 5.25% มูลค่าลงทุนรวม 8,593 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่นิคมฯ ใน EEC ถึง 1,328 ไร่ นิคมฯนอกพื้นที่ EEC จำนวน 11 ไร่
“การที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซี ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาท่าเรือฯมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน และโครงการอื่นๆ ขณะนี้เริ่มเห็นความชัดเจนเป็นรูปธรรม รวมทั้งมาตรการต่างๆที่รัฐมุ่งส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง S-Curve และNew S-Curve ตลอดจนยังมีปัจจัยจากต่างประเทศที่หนุนการลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนจีนเข้าไทยมากขึ้นจากกรณีที่สหรัฐ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในรอบ 2 ทำให้สงครามการค้ามีความรุนแรงมากขึ้นเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนจีนตัดสินใจที่จะออกไปลงทุนต่างประเทศเร็วขึ้น ไทยถือเป็นประเทศเป้าหมาย เชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลดีให้ยอดขายและเช่าที่ดินทั้งปีของ กนอ.เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่ที่ 3,500 ไร่” น.ส.สมจิณณ์ กล่าว
สำหรับทิศทางการเข้ามาซื้อและเช่าพื้นที่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ของนักลงทุน กนอ.คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งน่าจะมีการประกาศนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในนิคมฯช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อยู่ในอันดับ TOP 5 ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมคลังสินค้า อุตสาหกรรมยาง พลาสติกและหนังเทียม อุตสาหกรรมยานยนต์ และการขนส่ง อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักร และอะไหล่ และ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ และกลุ่มประเทศที่เข้ามา 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์
