นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอสจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อาร์เอส เป็นบริษัทหนึ่งเดียวในโลกที่ประกาศใช้โมเดลธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) นำแพลตฟอร์มสื่อในมือที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วมาบริหารต่อยอดธุรกิจเชิงพาณิชย์ได้อย่างคุ้มค่า สร้างรายได้และกำไรของทั้งกลุ่มเติบโตสูง
เริ่มด้วยการนำ ช่อง 8 ที่ทำเรตติ้ง “ทีวีดิจิทัล” ติดท็อป5 มาปั้นเป็นห้างสรรพสินค้าบนทีวี ทำให้สามารถบริหารเวลาโฆษณาสัดส่วนระหว่างลูกค้าภายนอกที่ซื้อสื่อและกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง สร้างประสิทธิภาพการใช้สื่อ
แผนธุรกิจช่วงครึ่งหลังปี 2561 เตรียม “เปลี่ยนผู้ฟังเป็นผู้ซื้อ” เตรียมเปิดตัว LINE@ COOL Anything คอมมูนิตี้ใหม่ที่รวบรวมสินค้ามาตรฐานทั้งแบรนด์ของตัวเองและพาร์ทเนอร์มาให้ช้อป ชูจุดเด่นความหลากหลายทั้งกลุ่มสินค้าเฮลท์แอนบิวตี้ (Health and Beauty) และกลุ่มสินค้าโฮมแอนด์ไลฟ์สไตล์(Home and Lifestyle) เจาะกลุ่มผู้ฟังของ “คูลฟาเรนไฮต์” (COOLfahrenheit)” สถานีวิทยุเพลงอันดับ1 เมืองไทยต่อเนื่องปีที่ 18
ส่วนใหญ่กลุ่มผู้ฟังมีกำลังซื้อสูง อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่มากกว่า 5.3 ล้านราย แบ่งเป็น กลุ่มผู้ฟังออนไลน์ 4 ล้านราย และกลุ่มผู้ฟังออนแอร์ 1.3 ล้านราย
ทั้งนี้ จากข้อมูลศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่าธุรกิจด้านสุขภาพความงามเป็นดาวรุ่งยอดนิยมต่อเนื่องกันมา 6 ปีมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.5 แสนล้านบาท ขณะที่ ยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor International) บริษัทสำรวจข้อมูลทางการตลาดระดับโลก ระบุว่าตลาดอาหารเสริมสุขภาพมีมูลค่ากว่า 5.18 แสนล้านบาท
อาร์เอส ขยายธุรกิจตลาดสินค้าสุขภาพและความงามเป็นปีที่ 4 ปีนี้เตรียมนำเสนอนวัตกรรมสินค้าใหม่อีก 15 รายการ เพิ่มความหลากหลายตอบรับกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ได้แก่ สินค้าแบรนด์ตัวเอง 7 รายการ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และกลุ่มสินค้าออร์แกนิคเพื่อสุขภาพ 4 รายการ กลุ่มผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ 1 รายการ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 รายการ และสินค้าแบรนด์พาร์ทเนอร์กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 8 รายการ
ดังนั้นมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะทำรายได้ทั้งกลุ่มได้ตามเป้าที่วางไว้ 5,800 ล้านบาท รายได้หลักมาจากธุรกิจเฮลท์แอนบิวตี้ 2,500 ล้านบาท และธุรกิจโฮมแอนไลฟ์สไตล์ 800-1,000 ล้านบาท
