Business

พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ ในมือเจน 2 ขอเติบโตอย่างมั่นคง

เจน 2 พรีเซิร์ฟ ฟู้ดฯ สานต่อธุรกิจครอบครัว เดินหน้าปรับใช้เทคโนโลยีใหม่บริหารจัดการ ขยายไลน์สินค้าใหม่เพิ่ม มุ่งออนไลน์ พร้อมสร้างแบรนด์สินค้าตัวเองลดเสี่ยง

คุณบัว

นางสาวภาพร มหัทธโนบล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ แบรนด์ “คอฟฟี่ ดรีมมี่”, อาหารแห้งแบบครบวงจร “เทสตี้ ท็อป” และ “ไทยเชฟ” เปิดเผยว่า นับเป็นเจน 2 (เจเนอเรชั่น) ของตระกูล ร่วมกับพี่ชายคือ นายภาณุ มหัทธโนบล ที่ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป ในการเข้ามาดูแลธุรกิจครอบครัวที่ก่อตั้งมานานกว่า 25 ปี ภายใต้เป้าหมายที่จะรักษาและเพิ่มยอดขายของธุรกิจ รวมทั้งต้องอยู่ได้อย่างมั่นคง

“รุ่นคุณพ่อที่เป็นรุ่น 1 รูปแบบการทำธุรกิจจะเน้นขายอย่างเดียว แต่ไม่เน้นสร้างแบรนด์ ทำให้สัดส่วนการขายวุตถุดิบและรับจ้างผลิตยังเป็นรายได้หลักของบริษัท แต่นับจากนี้ไป เราจะเน้นการสร้างแบรนด์เพิ่มมากขึ้น รวมถึงนำระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบอีอาร์พี (Enterprise Resource Planning) เพื่อวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม ซึ่งจะทำให้ภาพรวมการทำงานแม่นยำ และรวดเร็วขึ้น”

พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ 1 1

นอกจากนี้ ในปี 2562 ยังวางแผนทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น โดยจะมีการรีแบรนด์ดิ้ง แบรนด์ ไทยเชฟ ใหม่ อาทิ การปรับแพคเกจจิ้งสินค้า การวางแนวทางสื่อสารการตลาดและการขยายช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์มากขึ้น ซึ่งแบรนด์ไทยเชฟจะมีสินค้าข้าวต้มแซลมอน ซีฟู้ด ซุปแกงเขียวหวาน มัสมั่น ต้มข่าไก่ ที่เน้นจุดขายต่างจากเครื่องปรุงรสรายอื่น เนื่องจากมีเนื้อสัตว์ผสมอยู่แล้ว แค่นำไปปรุงแล้วสามารถทานได้เลย มุ่งจับกลุ่มเป้าหมายระดับบีบวกถึงเอ

สำหรับแผนงานในปีนี้ จะเน้นการขยายฐานลูกค้าโออีเอ็มหรือรับจ้างผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีผลิตสินค้าได้แก่ เทคโนโลยีอบแห้งแบบระเหิด (ฟรีซ ดราย) การทำแห้งแบบผง (สเปรย์ ดราย) การอบแห้งด้วยลมร้อน (แอร์ ดราย) และการทำแห้งด้วยลูกกลิ้งร้อน (ดรัม ดราย) การสกัดและทำเข้มข้น (เอ็กซ์แทรคชั่น) รวมถึงการแช่เยือกแข็ง (โฟรเซ่น ดราย) โดยเน้นทำตลาดทั้งลูกค้ากลุ่มบีทูบีและบีทูซี พร้อมทั้งทำงานร่วมกับคู่ค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อวิจัยและพัฒนาสินค้าร่วมกัน

พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้

ปัจจุบันบริษัทมีรายได้มาจากการจำหน่ายวัตถุดิบไปผลิตอาหาร 60% รับจ้างผลิต 30% และ สินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเอง 10% อาทิ แบรนด์ไทยเชฟ ในกลุ่มข้าวต้ม และ เทสตี้ท้อป ซึ่งเป็นผลไม้อบแห้ง รวมถึงครีมเทียมแบรนด์ คอฟฟี่ ครีมมี่ ซึ่งปีนี้วางตลาด 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่คือ ครีมเทียมน้ำมันรำข้าว และ ครีมเทียมน้ำมันมะพร้าว เพื่อเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพโดยตรง

ทั้งนี้ในกลุ่มครีมเทียมจะลงทุนเพิ่มอีก 500 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างและซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายไลน์ผลิต ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 100% รองรับการขยายตลาดใหม่ไปสู่เออีซี ตะวันออกกลางและแอฟริกา ซึ่งมีความต้องการใช้ครีมเทียมเพิ่มมากขึ้น โดยยอดขายครีมเทียมในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวม 1,500 ล้านบาทเติบโตขึ้น 15% แบ่งออกเป็นยอดส่งออก 55% และขายในประเทศ 45% ขณะที่รายได้โดยรวมของบริษัทในปีนี้จะมียอดขายกว่า 5,000 ล้านบาท

Avatar photo