COLUMNISTS

สำรวจหุ้นเด่นรับเลือกตั้ง!!

Avatar photo
EcoIndy คิดต่างสร้างสรรค์
325

 

Comp 1 00000

ตลาดหุ้นไทย “โล่งใจ” หลังหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่มาส.ว. และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ

ขั้นตอนจากนี้ไปคือ รอนำขึ้นทูลเกล้าฯ และลงประกาศในราชกิจจาฯ และคาดว่าการเลือกตั้งน่าจะมีขึ้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2562

ถือเป็น “คลายปม” ความพยายามในการปลุกกระแสความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่ ของ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ที่ออกมาชุมนุมประท้วง กดดันให้รัฐบาลจัดให้มีการเลือกตั้ง ภายในปลายปี 2561 ได้ในระดับหนึ่ง

แต่คงต้องจับตาอีกครั้งว่า “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” จะมีการปรับแนวทางการเคลื่อนไหวอย่างไร???

เพื่อที่จะยกระดับความเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะ “ยกแรก” ที่ออกมากดดันให้รัฐบาลเร่งจัดให้มีการเลือกตั้งจบลงแล้ว

มาดูผลสำรวจหุ้นเด่นรับเลือกตั้งกันดีกว่าว่า หุ้นกลุ่มไหนได้รับประโยชน์

จากบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส พบว่า มีหุ้นใน 6 กลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์เต็มๆ จากความชัดเจนในการจัดให้มีการเลือกตั้งในปี 2562 หลังศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านร่างกฎหมายลูก ส.ส. – ส.ว.

โดยมองไปที่หุ้นกลุ่มหมาก่อสร้าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มธนาคารแบงก์ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะได้รับอานิสงส์เต็มๆ รองลงมาคือ กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มมีเดีย (โฆษณา)

เพราะภายหลังจากมีการเลือกตั้ง รัฐบาลใหม่มักจะมีโครงการลงทุนภาครัฐจำนวนมาก หากดูจากโครงการภาครัฐที่คาดเปิดประมูลปี 2561 พบว่ามีมากถึง 24 โครงการ มูลค่า 8.2 แสนล้านบาท

ปัจจุบัน Backlog ของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง 13 แห่ง มีมูลค่ารวม 4.5 แสนล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ประมาณ 2 ปี โดยกลุ่มรับเหมาฯ ฝ่ายวิจัย ASP เลือกหุ้นเด่นมา 3 รายได้แก่ STEC, CK, SEAFCO

ส่วน “กลุ่มวัสดุก่อสร้าง” จะได้ประโยชน์ต่อจากกลุ่มรับเหมาฯ เมื่อมีการก่อสร้าง ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซิเมนต์ เหล็ก จะมีมากขึ้น ในกลุ่มนี้เลือก SCC เป็นหุ้นเด่น

กลุ่มธนาคารพาณิชย์ การปล่อยสินเชื่อผ่านโครงการลงทุนต่างๆ จะขยายตัวดีขึ้น บวกกับจีดีพีที่เติบโต คาดว่าสินเชื่อปีนี้จะขยายตัว 6.3% แม้ 4 เดือนแรกปีนี้ยังต่ำกว่าเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง รวมทั้งดอกเบี้ยจะเข้าสู่ “ขาขึ้น” ปลายปีนี้ เลือกหุ้นเด่น คือ BBL และ TCAP

“กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม” ได้รับปัจจัยบวกจากโครงการ EEC อยู่แล้ว เมื่อมีการเลือกตั้ง นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศจะเชื่อมั่นมากขึ้น ตามมาด้วยการตัดสินใจลงทุน หุ้นเด่นกลุ่มนี้ บล.เอเซียพลัส ยกนิวให้ WHA และ AMATA

“กลุ่มค้าปลีก” ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น หลังโครงการภาครัฐเดินหน้าตามแผน การลงทุนภาคเอกชน ก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น บล.เอเซียพลัส เลือก BJC, COM7, BEAUTY เป็นหุ้นเด่น

ส่วน “กลุ่มมีเดีย” เน้นไปที่ธุรกิจโฆษณา เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง การโฆษณาจะคึกคักมากเป็นพิเศษ โดยเลือก PLANB

ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน และดัชนีมีโอกาสหลุดระดับ 1,700 จุด ถือเป็น “จังหวะ” เหมาะในการเลือกช้อป หุ้นพื้นฐานดี ราคาถูก เข้าพอร์ต เพราะ “โหรหุ้น” หลายค่าย มองดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้มีโอกาสทะยานแตะ 1,800 จุด และปีหน้ามีโอกาสทะลุ 1,900 จุด หรือบางค่ายมองโลกสวย SET มีโอกาสพุ่งแตะ 2,000 จุด

ได้เวลาเตรียม “กระสุน” ให้พร้อมแล้วครั