นายสุทธิพงษ์ ไชยลังกา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันเคียวโฮม (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด (Keihan Real Estate Co.,Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท เคฮัง โฮลดิ้งส์ จำกัด (Keihan Holdings Co., Ltd.) ผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ในภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศไทยร่วมกัน ในลักษณะโครงการร่วมทุนโครงการแรก ภายใต้ชื่อโครงการ “The FINE Bangkok” (เดอะฟายน์ แบงค็อค) บนทำเลทองหล่อ-เอกมัย
ที่ผ่านมา บริษัท ซันเคียวโฮม (ประเทศญี่ปุ่น) จำกัด และบริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด เคยร่วมกันพัฒนาโครงการลักษณะร่วมทุน (Joint Venture) ที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว 5 โครงการ ภายใต้แบรนด์ The FINE เช่น โครงการคอนโดมิเนียมหรู 45 ชั้น The FINE Tower-Umeda Toyosaki ใจกลางโอซาก้า ปิดการขายแล้ว 100% มีประสบการณ์การพัฒนาที่อยู่อาศัยครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์ ทุกระดับราคา
โครงการ The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย เป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรู มูลค่าโครงการกว่า 1,700 ล้านบาท เป็นอาคารสูง 31 ชั้น จำนวน 220 ยูนิต ตั้งอยู่บริเวณซอยเอกมัย 12 พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Luxury Modern Japanese” มีความเรียบง่ายอบอุ่น แต่หรูหรา ภายในประกอบด้วยห้องชุด 1-2 นอน และเพนท์เฮ้าท์ ขนาดตั้งแต่ 34.5-92 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 5.5 ล้านบาท โดดเด่นด้วยนวัตกรรมการออกแบบ ที่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ของพื้นที่สูงสุด โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ อาทิ การมีระบบ Auto Parking เพิ่มพื้นที่จอดรถให้มากถึง 70% รองรับผู้อยู่อาศัยในเมืองที่ยังคงต้องใช้รถยนต์ในการเดินทาง มีระบบการสั่งซื้อของและจัดการธุรกรรมต่างๆ ผ่าน Application บนอุปกรณ์อัจฉริยะที่มีติดตั้งไว้ทุกห้อง
ด้านนายโยชิฮิสะ โดโมโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท เคฮัง โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจคมนาคม 2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3.ธุรกิจค้าปลีก และ 4.ธุรกิจบริการและพักอาศัย จากกลุ่มธุรกิจที่เข้มแข็งของเคฮัง เรียลเอสเตท ซึ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยมากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับครั้งแรกที่ได้ร่วมมือกับซันเคียวโฮม (ไทยแลนด์) ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมในต่างประเทศครั้งแรกที่ไทย
บริษัทได้เปิดพรีเซลในวันที่ 2-3 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ คนรุ่นใหม่อายุ 30-40 ปี ที่ชื่นชอบความหรูหราอย่างมีสไตล์ รวมไปถึงกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่มีวิสัยทัศน์ในการอยู่อาศัย ตลอดจนเพื่อการลงทุนระยะยาว คาดว่าจะทำยอดขายได้กว่า 60% โดยมีบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้ดูแลบริหารงานขายและการตลาด
