COLUMNISTS

ทางตัน ‘อีแอบ’นักการเมืองไทย

Avatar photo
205

ทำไป..ทำมา..จะหลบ..จะหนี..ยังไงมันก็ไปไม่พ้น ก็คนมันอาชีพ “การเมือง” เรียกว่าเสพติดไปแล้ว จะหนีไปทำอะไรได้ ช่วงที่ผ่านมาเห็นใครต่อใครมักชอบประกาศแสดงความบริสุทธิ์ให้กับตัวเองตลอดเวลา ประกาศวางมือเลิกเล่นการเมืองกัน

ทางตัน'อีแอบ'นักการเมืองไทย

บางคนก็ประกาศช่วงที่การเมืองร้อนระอุ บางคนก็ประกาศเพื่อหาความชอบธรรมให้กับเอง  เรียกความสงสาร  เพื่อเอาตัวรอด เรียกว่ามีหลายประเภท อยู่ที่โอกาสและจังหวะของแต่ละคน

การประกาศวางมือทางการเมืองสำหรับนักการเมืองบ้านเรา ถามจริงจะมีสักกี่คนที่จะปล่อยวางได้จริงๆ เพราะยังเห็นคนอีกจำนวนไม่น้อยปากบอกวางมือแต่ยังอยู่ข้างหลังคอยเป็น“อีแอบ”บัญชาการสั่งการอยู่ดีนั่นแหละ แต่บางคนประกาศที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองมาวันหนึ่งก็ “ตระบัดสัตย์” อยู่ดี

ฉะนั้นนักการเมืองบ้านเรายังไงก็ยังคงมีความอยากอยู่กับการเมืองอยู่ดี ว่าแต่จะหาเหตุเข้ามาสู่ถนนการเมืองในรูปแบบไหนมากกว่า บางคนบางกลุ่มก็อ้างประชาชนอย่างนั้นอย่างนี้ บางคนก็อ้างประเทศชาติ ทั้งๆที่ประเทศชาติก็ไม่ได้เป็นอะไรมีแต่คนนั่นแหละ ทำให้มีปัญหาต่างหาก

อย่างกรณีของ“ลุงกำนันสุเทพ” หรือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) มาวันนี้ประชาชนหรือแนวร่วมทั้งหลายก็น่าจะเห็นความชัดเจนแล้วว่า “ลุงกำนัน” จะเดินไปทางไหน เลิกเล่นการเมืองจริงอย่างที่พูดไว้หรือไม่ หรือว่าต้องเสียสละเข้ามาทำการเมืองอีกครั้ง ทุกคนก็คงเห็น“ลุงกำนัน” น้ำตาแตกบนเวที ให้ผู้เสียชีวิต จากการชุมนุม กปปสไปแล้ว

ปรากฎการณ์ของ“ลุงกำนัน”ที่เกิดขึ้น แม้จะมีเสียงวิพากวิจารณ์ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หนทางยังต้องมีการพิสูจน์อะไรอีกมากมาย “ลุงกำนัน” วันนี้และวันข้างหน้า จะใช่ “ลุงกำนัน” เมื่อวันวานหรือไม่ ตรงนี้ต่างหากที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ จะยังมีประชาชนรักและรายล้อมอยู่เหมือนเดิมหรือไม่

ทางตัน'อีแอบ'นักการเมืองไทย

การทำการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ จะใช่ทางออกเพื่อประชาชนอย่างที่ “ลุงกำนัน” พูดหรือไม่ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)ใช่พรรคที่ประชาชนคาดหวังหรือไม่ ตลอดที่ผ่านมาเวลาพรรคการเมืองจะทำพรรคขึ้นทุกพรรค มักเอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน พยายามสร้างโลกสวยให้กับประชาชนตลอดเวลา

แต่เมื่อวันที่เข้าไปเป็นรัฐบาล หรือเป็นผู้มีอำนาจในการบริหารประเทศ ประชาชนมักถูกมองเป็นตัวปัญหาเสียมากกว่า ฉะนั้นพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จะมีคำตอบที่ดี จะเหนี่ยวรั้งประชาชนได้จริงหรือไม่ อาจเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน

เราจึงไม่แปลกใจว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรควันที่ยังไม่มีที่นั่ง มักมองประชาชนเป็นใหญ่ แต่พอได้ที่นั่งแล้วประชาชนดูเหมือนจะได้รับการเหลียวแลน้อยลงทุกขณะ

วันนี้แม้ “ลุงกำนัน”จะประกาศกร้าวบอกว่าไม่ใช่คนที่อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองนี้ แต่จะยืนเคียงข้างประชาชนผู้มีอุดมการณ์ และไม่สนใจคำวิจารณ์  จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่อาสาเป็นขี้ข้าของประชาชน จะเอาความรู้และประสบการณ์ที่เคยเป็นนักการเมืองมากว่า 40 ปี ร่วมตั้งพรรคการเมืองของประชาชนพรรคเดียวของประเทศไทยให้เกิดขึ้นให้ได้ …ฟังดูดีแต่อาจจะเร็วเกินไปกับการบอกว่าจะไม่รับอะไรเลย

จริงๆอยากจะฝากไปถึงนักการเมืองทั้งหลาย ควรเลิกพร่ำเสียทีกับการที่จะบอกว่าไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจ ไม่ยุ่งเกี่ยว นักการเมืองบ้านเรายังไงก็ยังเป็นนักการเมืองวันยั่งค่ำ ฉะนั้นอยากโกหกตัวเอง พอถึงเวลามักอ้างประชาชน ประชาธิปไตย

ดังนั้นหากใครคิดว่าการเมืองคือสิ่งเสพติดแล้ว กรุณาเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อลงสู่สนามกันเสียดีกว่า หากกติกาพร้อม จะได้เป็นนักการเมืองหรือไม่ทั้งหมดมันอยู่ที่ “ประชาชน”เท่านั้น

ขอเถอะ..เลิกเป็น อีแอบ ทางการเมืองกันได้แล้ว