Politics

เตรียมประกาศ TOR ประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3

กอบศักดิ์ ภูตระกูล1

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding) ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาทบทวนความเหมาะสมด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และสิ่งแวดล้อม โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกโครงการภายใต้การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ซึ่งท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 เป็น 1 ใน 5 โครงการนำร่อง ซึ่งจะเปิดการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณการระหว่าง 95,000 – 105,000 ล้านบาท (เป็นมูลค่าประมาณการเท่านั้น) ซึ่งตามพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งขั้นตอน Fasttrack EEC ที่ลดเวลาดำเนินการประมูลได้ภายใน 8 – 10 เดือน ซึ่งตามแผนงาน จะประกาศเงื่อนไขการประมูล (TOR) ภายในเดือน สิงหาคม 2561 สามารถสรุปผลได้ตัวผู้รับสัมปทานในเดือนธันวาคม 2561 มั่นใจว่ากระบวนการทุกอย่างภายในปลายปี 61 ก่อนเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2562

โดยท่าเรือ แหลมฉบังขั้นที่ 3 จะพัฒนาเพื่อให้รองรับการขนส่งตู้สินค้าผ่านทางรถไฟและเพิ่มระบบจัดการขนตู้สินค้าแบบอัตโนมัติ (Automation) การรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน ครั้งที่ 2 เป็นการรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนเป้าหมายเกี่ยวกับรายละเอียดในการพัฒนาโครงการ รูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน ซึ่ง นโยบายของรัฐบาล ภายใต้คณะกรรมการ อีอีซี เปิดประมูลแบบนานาชาติ เปิดกว้างให้มีนักลงทุนเข้าร่วมมากที่สุด เพื่อให้เกิดการแข่งขันซึ่งรัฐบาลจะได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด ซึ่งหากไม่ติดข้อกฎหมายใดๆ มีความเป็นไปได้ที่จะ ใช้รูปแบบเดียวกับการประมูลรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ที่ให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 75% ยกเว้นด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ตั้งบริษัทลูกที่มีคนไทยถือหุ้น 51%

“การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 เป็นการวางเพื่ออนาคตอีก 20 ปี ซึ่งจากนโยบายของหลายประเทศ จะทำให้แหลมฉบัง เป็นท่าเรือศูนย์กลางอินโดจีนเป็น อินโดไชน่าเกต์เวย์ เช่น จีน มี One Belt and One Road อินเดีย มีมองตะวันออก (Look East Policy) ส่วนญี่ปุ่น มี ยุทธศาสตร์อินโด – แปซิฟิก ดังนั้นรัฐบาลจังมีนโยบายพัฒนาไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้า การลงทุนในอินโดจีน โดยพัฒนา พื้นที่ EEC ซึ่งมีโครงการที่จัพัฒนามูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท เชื่อว่าจะขับเคลื่อนและทำให้เศรษฐกิจไทยโตมากกว่า 4.8% ในปัจจุบันแน่นอน” นายกอบศักดิ์ กล่าว

ด้าน ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังกล่าวว่า ที่ผ่านมา การท่าเรือฯ ได้ทบทวนการศึกษาเพื่อเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางในแหลมฉบังขั้นที่ 3 ให้ได้เป็น 30% นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการศึกษา ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)ซึ่งได้ ทำข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเสนอต่อคณะผู้ชำนาญการ (คชก.) ในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะได้รับอนุมัติในเดือนสิงหาคมนี้

โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 เป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือ เพื่อรองรับความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยโครงการมีความได้เปรียบทั้งในด้านทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของการดำเนินงาน ที่เป็นศูนย์รวมและกระจายสินค้า ศูนย์แวะพักตู้สินค้า และภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ ระหว่างประเทศในระดับอนุภูมิภาคที่สามารถเอื้ออำนวยให้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นประตูการค้าสู่กลุ่มประเทศ CLMV รวมทั้งจีนตอนใต้ จีนตะวันตก ญี่ปุ่นและอินเดียด้วย

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK