Branding

ยูนิลีเวอร์ใส่เกียร์รักษ์โลก ส่ง 2 แบรนด์ใหม่เกาะเทรนด์ เดินหน้าดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่น

หลังจากซุ่มเงียบไปปฏิวัติองค์กรในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย และมาเลเซีย สิงคโปร์ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา ที่เข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่ในประเทศไทยแล้ว 2 ปี ก็พร้อมเปิดวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้เป้าหมายการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ลดขยะพลาสติก เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

โรเบิร์ต แคนเดลิโน 2

นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย และมาเลเซีย สิงค์โปร์ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของยูนิลีเวอร์ในปีนี้ จะเน้นการสานต่อแผนดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนที่ประสบความสำเร็จด้วยดีมาใช้ต่อเนื่อง หลังจากใช้ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจในไทยตั้งแต่ปีที่แล้ว

สำหรับปีนี้ ยูนิลีเวอร์ มองว่า เป็นปีที่ดีมากปีหนึ่งของธุรกิจ ดังนั้นจะมีการขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าเพื่อให้ครอบคลุมตลาดมากยิ่งขึ้นในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค

เริ่มจากสินค้าใหม่ที่วางตลาดในปีนี้ จะแตก 2 แบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดในไทยครั้งแรก ประกอบด้วย แบรนด์ “” ในกลุ่มเพอร์ซันนอล แคร์หรือของใช้ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นการวางตลาดทั่วโลก ประกอบด้วย แชมพู ครีมนวดผม โลชั่นและครีมอาบน้ำ มีให้เลือกหลายกลิ่น อาทิ กุหลาบ น้ำมันมะพร้าว ลาเวนเดอร์ กระดังงา

ส่วนอีกแบรนด์ใหม่คือ “เซเว่น เจเนอเรชั่น” เป็นการซื้อแบรนด์มาเพื่อทำตลาดเอง โดยเป็นสินค้าในกลุ่มโฮมแอร์ หรือของใช้ภายในบ้าน ได้แก่ น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า และสเปรย์ทำความสะอาด ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายแล้วเช่นกัน

ที่สำคัญคือ ทั้งสองแบรนด์นับเป็นสินค้ารักษ์โลก ที่สานต่อพันธกิจของยูนิลีเวอร์ ในเรื่องความยั่งยืนและสุขภาพ โดยเป็นสินค้าที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ กระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้พลาสติกที่เป็นรีไซเคิลทั้งหมด อันเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายยูนิลีเวอร์ที่จะใช้พลาสติกรีไซเคิลทั้งหมดภายในปี 2568

ร้านติดดาว

ตลอดระยะเวลา 87 ปี ในประเทศไทย ยูนิลีเวอร์ นำเสนอสินค้าอุปโภคบริโภคมากมายแก่ผู้บริโภคชาวไทย และชี้วัดความสำเร็จได้ดังนี้

  • ได้รับการจัดอันดับให้เป็น บริษัทอันดับหนึ่งที่คนอยากทำงานด้วยมากที่สุดโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน (2559-2561)
  • เป็นผู้นำตลาดในเซ็กเมนต์สินค้าหลัก 7 ชนิดด้วยกัน คือ น้ำยาซักผ้า แชมพูสระผม ผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย ผงซักฟอก โจ๊ก ไอศกรีม และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • 99% ของ 7 ล้านครัวเรือนในประเทศไทย ซื้อผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์มากกว่า 2 ครั้งต่อเดือน โดยมีอัตราการซื้อซ้ำกว่า 99% และผู้บริโภคไทยใช้สินค้าของยูนิลีเวอร์ในชีวิตประจำวัน 3 ครั้งต่อวัน
  • บุกเบิกร้านติดดาว เพื่อช่วยร้านขายของชำเติบโตได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีแล้ว 1 หมื่นร้านค้า และจะขยายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  • ผุดโครงการ “ไอ แอม วอลล์ แมน” เพื่อส่งเสริมอาชีพสำหรับคนไทยที่ต้องการทำธุรกิจไอศครีมวอลล์ ให้โอกาสทำงานที่ดี มีรายได้ที่มั่นคง และปีนี้จะเป็นปีที่วอลล์ ฉลองครบรอบ 30 ปีของคนขายไอศครีมวอลล์ ขณะนี้ ยูนิลีเวอร์ ได้สร้างงานกว่า 10,000 รายให้คนขายไอศกรีมวอลล์

นอกจากนี้ ยังได้เดินหน้าดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น เพื่อให้สอดรับกับยุค ดิจิทัล ดิสรัปชั่น ด้วยการลงทุนก่อตั้งศูนย์ดิจิทัลขึ้นในประเทศไทยเพื่อใช้สำหรับการฝึกอบรมทักษะความรู้ด้านดิจิทัลต่าง ๆ สำหรับพนักงาน

ทั้งหมดนี้ ยูนิลีเวอร์ มีความเชื่อในพื้นฐาน 3 ประการ ที่ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินกิจการทางธุรกิจต่าง ๆ ได้แก่ 1.แบรนด์ที่มีเป้าหมายจะเติบโต 2.บุคลากรที่มีเป้าหมายจะเติบโต และ 3.บริษัทที่มีเป้าหมายจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน และในการทำธุรกิจท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของตลาดในขณะนี้ ยูนิลีเวอร์ ให้ความสนใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในหลายภาคส่วน ได้แก่ ผู้บริโภค ลูกค้า พนักงาน สังคม โลก และผู้ถือหุ้น

7เจน

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ปัจจบันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลของเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป  ผู้บริโภคกำลังมองหาไลฟสไตล์สุขภาพที่ดีขึ้นและมีความตระหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน อีกทั้งการเข้าถึงของสินค้าที่หลายหลายได้ปรับเปลี่ยนไป โดยมีการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มบนมือถือและอีคอมเมอรช์มากขึ้น ในขณะที่ลูกค้าเองมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ต้องการสินค้าที่ชอบ ในเวลาที่ต้องการ และจะซื้อในราคาที่ตนเองอยากจ่ายเท่านั้น

พร้อมกันนี้ ยูนิลีเวอร์ยังให้ความสำคัญกับการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและโลก ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งมั่นลดขยะพลาสติกด้วยการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถรีไซเคิล นำกลับมาใช้ใหม่ และย่อยสลายได้ กับผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ โดยปัจจุบันแบรนด์ซันไลต์ที่มียอดขายปีละ 100 ล้านขวด เปลี่ยนมาใช้พลาสติกรีไซเคิลแล้วทั้งหมด

13169

ในด้านสุขภาพเน้นการนำเสนอสินค้าเพื่อสุขภาพ ที่มีปริมาณเกลือและน้ำตาลลดลง พร้อมทั้งมีแคลลอรี่ลดลงอีกด้วย เช่น แบรนด์คนอร์ ที่มีปริมาณเกลือลดลงกว่า 26-28% เพิ่มวิตามินมากขึ้นเป็นต้น

ในรอบปี 2561 ที่ผ่านมา ยูนิลีเวอร์ยังได้พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาทำตลาดต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แคปซูลซักผ้า การซักผ้านวัตกรรมใหม่, เรโซน่าโรลออนสูตรใหม่, โลชั่นรูปแบบเจล, สบู่เหลวลักซ์ที่ขยายไลน์เจาะตลาดพรีเมียม และแชมพูเคลียร์โฉมใหม่เป็นต้น

จากวิชั่นที่วางไว้ โดยเฉพาะการผลิตสินค้าที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและดีต่อสุขภาพ นายใหญ่ยูนิลีเวอร์เชื่อมั่นว่า จากการที่ยูนิลีเวอร์เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ย่อมมีผลให้เกิดการปฎิวัติและเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นผลแน่นอน

Avatar photo