General

รมว.เกษตรฯ ทิ้งทวน ปั้นโมเดลการตลาดนำการผลิต กันสินค้าเกษตรล้นตลาด

“กฤษฎา บุญราช” เปิดใจนั่งเก้าอี้ รมว.เกษตรปีกว่า พบปัญหาเกษตรกรไทยเก่งผลิต แต่ไม่เก่งตลาด วางโมเดลปฎิรูปการผลิตให้สอดคล้องความต้องการตลาด แนะเกษตรกรรวมกลุ่มทำเกษตรแปลงใหญ่ ลดต้นทุน เพิ่มอำนาจต่อรอง

กฤษฎา บุญราช 1
กฤษฎา บุญราช

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในงาน“ตลาดไท ทุเรียนไท คุณภาพ” ว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่ง รม.เกษตรฯแล้วปีกว่า ถึงเวลาที่รัฐบาลชุดใหม่และรมว.เกษตรฯคนใหม่จะเข้ามาบริหารงานต่อ พบว่า ปัญหาของเกษตรกรไทยในปัจจุบันคือ ปลูกพืชผลทางการเกษตรมาแล้วจำหน่ายไม่ได้ ไม่มีตลาดรองรับ และผลิตเกินความต้องการของตลาด ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯได้ประกาศนโยบาย “การตลาดนำการผลิต” เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเริ่มทดลองโมเดลดังกล่าวแล้ว ด้วยการให้วางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตั้งแต่การวางแผนพื้นที่ปลูก ดูสภาพตลาด มีการประสานงานกับทุกภาคส่วน เช่น หน่วยงานรัฐอย่างกระทรวงพาณิชย์เพื่อดูความต้องการตลาด กรมส่งเสริมการเกษตรในการช่วยเหลือเกษตรกร ตลาดที่รับซื้ออย่างตลาดไท ไปจนถึงสถาบันการศึกษาในการร่วมวิจัยพัฒนานำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในภาคเกษตร

“ที่ผ่านมามีตัวอย่างมากมายที่การผลิตล้นตลาด ไม่ว่าจะเป็นนมวัวที่ต้องมาราดทิ้งหน้ากระทรวงฯ ไข่ไก่ล้นตลาดจนนำมาปาเล่นก็หน้ากระทรวง ราคายางพาราตกต่ำ จนเกิดม๊อบ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะขาดการวางแผนที่ดีเพื่อให้การผลิตสอดคล้องกับตลาด ไม่สนับสนุนให้มีการปลูกมากจนเกินไป”นายกฤษฎากล่าว

12691

สำหรับทุเรียน ถือเป็นอีกสินค้าหนึ่งที่ต้องมีการวางแผนการผลิต เนื่องจากปัจจุบันมีพื้นที่การผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิม 5 แสนไร่เป็น 9 แสนไร่ ผลผลิตเพิ่มจากปีละ 5-6 แสนตันเป็น 9 แสนตันในปีนี้ และเป็นสินค้าที่ทำรายได้ส่งออกได้ถึง 80% ปัจจุบันระดับราคาถือว่ายังดีเนื่องจากมีตลาดส่งออกเข้ามาช่วย เพราะประเทศจีนตอนใต้ที่ปลูกทุเรียนประสบปัญหาเรื่องน้ำทำให้ผลผลิตออกมาน้อยและหันมาซื้อทุเรียนไทยมากขึ้น ทำให้ระดับราคาทุเรียนปีนี้คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม แต่หากจีนสามารถผลิตสินค้าได้ในปีต่อไปโดยไม่มีปัญหาน้ำอาจทำให้ทุเรียนไทยประสบปัญหาล้นตลาดได้

ทางออกสำหรับทุเรียนไทยคือ การวางแผนการผลิตให้พอดีกับความต้องการของตลาด โดยหาตัวเลขว่าควรปลูกกี่ไร้จึงจะไม่ล้นตลาด และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น ตลาดไทที่เป็นตลาดกลางผลไม้รายใหญ่ อาจมีการทำสัญญาว่าจ้างปลูกกับเกษตรกรเพื่อให้นำมาจำหน่ายที่ตลาดไท โดยวางมาตรฐานสินค้าที่รับซื้อไว้แต่แรก เพื่อป้องกันปัญหาไม่มีตลาดรับซื้อเป็นต้น รวมถึงการปลูกพืชอื่นแซมในสวนทุเรียนเพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากทุเรียนอย่างเดียว

รมว.เกษตรฯกล่าวปิดท้ายว่า คงไม่มีอะไรฝากเป็นการบ้านถึง รมว.เกษตรฯคนใหม่ เพราะมาจากการเลือกตั้ง จึงเชื่อว่าจะรู้ปัญหาของชาวบ้านที่เลือกเข้ามาดีอยู่แล้ว

สำราญ สาราบรรณ์
สำราญ สาราบรรณ์

ด้านนายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกทางออกของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนคือ การรวมกลุ่มตั้งเป็นชมรมหรือสมาคมชาวสวนทุเรียน ในรูปแบบของพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ เหมือนสมาคมผู้ปลูกมะม่วง เพื่อจัดระบบการบริหารจัดการเชิงปริมาณการเพาะปลูก สร้างเอกลักษณ์ของสินค้าและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มอำนาจต่อรองในการจัดซื้อสินค้าและอุปกรณ์ทางการเกษตรได้ถูกลงด้วย

“ตามการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาดกว่า 495,543 ตัน ขณะนี้มีผลผลิตออกสู่ตลาดไปแล้วกว่า 74% และสถานการณ์ในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ราคาทุเรียนเกรด A ที่เกษตรกรขายได้ 121 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ภาคใต้ คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผลผลิตทุเรียน 445,220 ตัน”นายสำราญกล่าว

Avatar photo