เกิดเหตุมืดมีดไล่แทงผู้คนในเมืองคาวาซากิ ของญี่ปุ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 17 คน
เจ้าหน้าที่แผนกดับเพลิง เมืองคาวาซากิ ระบุว่า จากการเข้าช่วยเหลือพบชายคนหนึ่ง และเด็กหญิงคนหนึ่ง ไม่มีสัญญาณชีพ ซึ่งเป็นประโยคที่มักใช้ในญี่ปุ่น ซึ่งหมายความว่าเหยื่อเสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่ได้ผ่านการรับรองจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ
ภาพที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น แสดงให้เห็นว่าที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยรถตำรวจ รถพยาบาล และเครื่องมือดับเพลิง พร้อมมีการตั้งเต้นท์ขึ้นมาเพื่อรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ
โฆษกสถานีดับเพลิงคาวาซากิ เปิดเผยว่า ได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินเมื่อเวลา 7.44 น. วันนี้ (28 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดนแจ้งว่ามีเด็กนักเรียน 4 คน ถูกแทง
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่ง ระบุว่า สามารถควบคุมชาย ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุไว้ได้แล้ว ส่วนสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ของญี่ปุ่น รายงานว่า ผู้ต้องสงสัยได้ใช้มีดแทงตัวเอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่มีรายงานถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้
เหตุร้ายครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วนในตอนเช้า ที่ผู้ึคนกำลังเดินทางไปทำงาน และเด็กๆ ไปโรงเรียน ซึ่งพยานรายหนึ่งบอกว่า เหตุเกิดที่บริเวณป้ายหยุดรถประจำทาง
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีอัตราการก่อเหตุอาชญากรรมรุนแรงน้อยมาก และการก่อเหตุโจมตีผู้คนจำนวนมากนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก
ในปี 2560 เจ้าหน้าที่จับกุมชายคนหนึ่ง หลังก่อเหตุแทงผู้อื่นเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 คน ขณะกำลังโดยสารรถไฟหัวกระสุน ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยบนบริการรถไฟชื่อดังใหม่ทั้งหมด
ก่อนหน้านั้น ในปี 2559 ชายคนหนึ่งก่อเหตุแทงผู้อื่นเสียชีวิต 19 ราย ในศูนย์ดูแลผู้ทุพพลภาพ ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นการกระทำที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ได้รับภารกิจมาเพื่อกำจัดบุคคลที่มีอาการป่วยทางจิต
