CEO INSIGHT

เปิดใจเจ้าของสมูทอี ‘เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล’ ทำธุรกิจที่มีความสุข ไม่ได้ทำเพื่อเงิน

การเข้าซื้อกิจการร้านขายยา P&F โดย บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและปลุกปั้นเวชสำอางภายใต้แบรนด์ สมูท-อี และผลิตภัณฑ์สำหรับช่องทางแบรนด์ เดนทิสเต้ ด้วยดีล 200 ล้านบาท มีเบื้องหลังและแนวคิดที่น่าสนใจมากทีเดียว เมื่อได้ฟังจากปากของ เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการสยามเฮลท์ กรุ๊ป

ภก.ดร.แสงสุข พิทยานุกุล 1 1

 

ด้วยความที่เป็นเภสัชกรในสายเลือด แม้ว่าจะหันมาจับธุรกิจสมูท-อี และเดนทิสเต้จนมียอดขายหลัก 5,000 ล้านบาท แต่จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจร้านขายยาเล็กๆ ย่านสยามแสควร์ และมีการขยายสาขา 4-5 แห่งเมื่อ 30 ปีที่แล้ว กลับทำให้ เภสัชกร ดร.แสงสุข ยังคงถวิลหา และต้องการสานต่อความฝันที่ยังคาใจอยู่เลยตัดสินใจซื้อธุรกิจร้านขายยา P&F เพื่อหันกลับมาทำธุรกิจร้านขายยาอีกครั้งแต่ใหญ่กว่าเดิม

ที่สำคัญคือ การกลับมาทำธุรกิจตามความฝันครั้งนี้ กลับมาจุดมุ่งหมายที่เปลี่ยนไป เพราะไม่ใช่เป็นการทำธุรกิจเพื่อเงิน แต่เป็นการทำธุรกิจที่มีความสุข

“ทุกวันนี้สมูท-อี กับเดนทิสเต้ทำเงินได้เยอะแล้ว  แต่ไม่มีความสุขเท่ากับทำร้านขายยาเล็กๆ ขนาดแค่ 6 ตารางเมตรที่สยามแสควร์ วันนี้เลยอยากทำอะไรที่มีความสุขและสนุก”

เภสัชกร ดร.แสงสุข ยอมรับว่า การซื้อกิจการร้านขายยา P&F ในวันนี้ คงไม่ใช่ธุรกิจที่จะทำกำไรได้เร็ว อย่างน้อยต้องรับภาระขาดทุนไม่ต่ำกว่า 2-4 ปี แต่อยากทำเพราะเชื่อมั่นว่า อาชีพเภสัชกรสามารถช่วยเหลือคนไข้ได้อีกมากและย้อนกลับไปที่แพชชั่นของตัวเองที่อยากทำธุรกิจที่มีความสุข จึงทำให้การตัดสินใจซื้อธุรกิจครั้งนี้ไม่ยากเย็นแม้แต่น้อย

S 24092734

ประกอบกับที่มาของร้านขายยา P&F เองก็มีจุดเริ่มต้นจากมาจากการรวมตัวของเภสัชกร 3- 4 คนที่ต้องการเปิดร้านขายยาที่ดีมีมาตรฐาน และบริการที่ดี แต่เมื่อธุรกิจร้านขายยามีการแข่งขันกันรุนแรง ใช้สงครามราคาอย่างดุเดือด จนกำไรบางลงไปทุกที ย่อมทำให้คนที่ตั้งใจทำธุรกิจดีดี เพื่อลูกค้าเกิดความท้อแท้ เมื่อมาเจอกับคนที่มีความพร้อมด้านเงินทุน และความตั้งใจตั้งอยู่บนวัตถุประสงค์เดียวกัน จึงบอกได้เลยว่า การซื้อกิจการครั้งนี้ “วิน-วิน” เพราะผู้ร่วมก่อตั้งก็ยังคงร่วมเป็นผู้ถือหุ้นเพื่อทำตามเจตนารมณ์ต่อไป

 

 

เมื่อถามถึงเป้าหมายของการทำธุรกิจร้านขายยา P&F ครั้งนี้ เป้าหมายทางธุรกิจ แน่นอนว่าต้องสร้างผลกำไร ทำให้การตั้งเป้าหมายมีทั้งแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว โดยแผนระยะสั้นคือ การปรับปรุงร้านเดิมที่มี 71 สาขา ให้มีรูปลักษณ์ใหม่ มีการบริการที่ดี เพื่อสร้างความต่างจากการใช้บริการในโรงพยาบาลหรือการซื้อยาในร้านขายยาแบรนด์อื่น ภายใน 1 ปี จากนี้ ตามด้วยแผนระยะกลาง ที่จะขยายสาขาให้ครบทั้ง 77 จังหวัด ตามด้วยการเปิดร้านในทุกอำเภอ หรือไม่ต่ำกว่า 800 สาขาด้วยงบลงทุนรวมประมาณ 1,600 ล้านบาทหรือลงทุนสาขาละประมาณ 2 ล้านบาท ภายใน 3-4 ปี

จากนั้นจะเป็นแผนระยะยาวคือขยายสาขาได้ถึง 1,600 สาขา ซึ่งยอมรับว่าต้องหาแหล่งเงินลงทุน จึงวางแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 4 ปีจากนี้ เพื่อระดมทุนสำหรับการขยายสาขาตามเป้าหมายอีก 800 สาขา หรือลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท

ถึงตอนนี้ ร้านขายยา P&F ต้องเป็นร้านขายยาที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทยแน่นอน หรืออาจมีสาขาในทุกตำบลก็ว่าได้

สยามเฮลท์ กรุ๊ป

นั่นเป็นเป้าหมายทางธุรกิจ แต่สำหรับ เภสัชกร ดร.แสงสุข เองแล้ว เป้าหมายในใจคือ เหนือกว่ารายได้และผลกำไรที่ได้รับ กลับอยู่ที่การตอบแทนคืนสู่สังคม ด้วยความตั้งใจที่อยากทำอะไรเพื่อสังคม และมองว่าอาชีพเภสัชกร รวมถึงร้านขายยาที่ดีสามารถช่วยเหลือคนได้อีกมาก จึงตั้งเป้าตั้งแต่วันนี้ว่าจะทำกิจกรรมซีเอสอาร์ในชุมชนที่สาขาของร้าน P&F ตั้งอยู่ เช่น ทุก 3 เดือนจะร่วมกับซัพพลายเออร์ออกไปให้บริการในชุมชน เพื่อให้ความรู้ ตรวจเบื้องต้น และบริจาคยาเป็นต้น

ผมเชื่อในเรื่อง การให้ก่อนที่จะได้รับ (give before get) สิ่งที่เราต้องให้ผู้บริโภคคือ การตอบโจทย์ความต้องการเชิงลึกของลูกค้าที่เดินเข้าร้านขายยา พบปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายยามีเภสัชกรประจำไหม จะจ่ายยาได้ถูกโรคไหม แพ้ยาอะไร ซึ่งเราจะมาตอบโจทย์ทั้งการมีเภสัชกรประจำตลอดเวลา มีแพทย์ให้คำปรึกษาตรวจอาการเบื้องต้นวันละ 3 ชั่วโมง มีการลิงค์ข้อมูลกับโรงพยาบาลเพื่อให้ทราบประวัติคนไข้และสามารถจ่ายยาได้ถูกโรค และที่สำคัญคือ บริการที่ดีเลิศ”

 

ปัจจุบัน ร้านขายยามีความเสี่ยงสูง การแข่งขันรุนแรง จากมูลค่าตลาดร้านขายยา 3-4หมื่นล้านบาท มีจำนวนร้านขายยาทั่วประเทศประมาณ 20,000 แห่ง  แต่กลับเป็นธุรกิจที่กำไรบางลงเรื่อยๆ เนื่องจากการแข่งขันตัดราคาเพื่อให้ขายได้ในปริมาณมากๆ ยิ่งในโลกทุกวันนี้ที่ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น หากร้านขายยาไม่ปรับตัว ย่อมอยู่รอดได้ยาก

ดังนั้น การสร้างความต่าง จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ ร้าน P&F อยุ่รอดปลอดภัยได้ ประการแรกที่สำคัญของการทำธุรกิจ จึงอยู่ที่การวางวิสัยทัศน์ โดย ร้าน P&F วางวิชั่นที่จะเป็นร้านขายยาในดวงใจ (Top of Mind) ผู้บริโภคชาวไทยใน 1-2 ปี นับจากนี้ เพราะปัจจุบันยังไม่มีร้านขายยาที่มีแบรนด์ลอยัลตี้จากลูกค้ามากนัก

สมูทอี

สิ่งที่จะทำให้ ร้าน P&F แตกต่างจากเชนร้านขายยารายอื่นคือ 1.ฟังก์ชั่นนอลครบ ทั้งการให้ความรู้ ความมั่นใจ ความน่าเขื่อถือ 2.อีโมชันนอล มั่นใจในการบริการที่อบอุ่นและได้ทุกอย่างที่อยากได้  เช่นมีน้ำให้ดื่ม เดินห้างหิวน้ำก็มาดื่มที่ร้านพีแอนด์เอฟได้ 3.โซเชียล การตอบแทนคืนสู่สังคม

 

“ยาครบ บริการ 24ชม. ราคาไม่สูงเกินจริง”เภสัชกร ดร.แสงสุขกล่าวปิดท้าย

Avatar photo