พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีการหารือร่วม 3 สภาวิชาชีพ ประกอบด้วยสภาวิชาวิศวกร สภาวิชาชีพบัญชี สภาสถาปนิกและทีดีอาร์ไอ ถึงการปลดล็อกอาชีพสงวนใน 3 สาขา คือ วิศวะโยธา-บัญชี-บัญชี เพื่อทำความเข้าใจร่วมกับ 3 สภาวิชาชีพ หลังมีข่าวว่ากระทรวงแรงงานจะเปิดให้ต่างด้าวทำอาชีพเหล่านี้ได้ ทำให้ 3 สภาวิชาชีพไม่เห็นด้วย
พล.ต.อ.อดุลย์ ระบุว่าอาชีพสงวนที่เดิมห้ามคนต่างด้าวทำ 39 อาชีพ แต่กระทรวงแรงงานเตรียมปลดล็อกห้ามทำเพียง 28 อาชีพ และอนุญาตให้ทำได้ 12 อาชีพ ซึ่งสาขาวิศวะโยธา บัญชี และสถาปัตย์ รวมอยู่ใน 12 อาชีพที่อนุญาต แต่มีเงื่อนไข ว่าต้องมีนายจ้างเป็นคนไทย ไม่เป็นเจ้าของกิจการ ต้องไม่กระทบกับความมั่นคง ไม่เป็นงานที่แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย มีความจำเป็นต้องใช้แรงงาน ไม่แย่งงานคนไทย
การปลดล็อก 3 อาชีพ เป็นไปตามข้อตกลงของ 10 ประเทศอาเซียนตามอนุสัญญาบาหลี คองคอร์ด การเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างประเทศอาเซียน แต่มีข้อกำหนดแรงงงานที่เข้ามาทำงานในประเทศไหน ต้องยึดหลักและกฎระเบียบตามที่สภาวิชีพของประเทศนั้นๆ การปลดล็อกอาชีพสงวนข้างต้นเป็นเพียงข้อสรุป จากการรับฟังความคิดเห็น จะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวกลางก่อน
นายประเสริฐ หวังรัตนปราณี อุปนายกสภาวิชาชีพบัญชี กล่าวว่าในส่วนของบัญชี ไม่ควรเปิดให้ต่างชาติเข้ามาทำงาน ควรสงวนไว้เหมือนเดิม เพราะงานบัญชี เป็นเรื่องของรายได้ ต้นทุน หากเปิดให้ต่างชาติเข้ามา กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะเห็นข้อมูลของบริษัท และอาจเอาข้อมูลไป ให้บริษัทคู่แข่ง เพื่อหวังกำไร ต่างจากวิศวะ และสถาปัตย์
สำคัญปัจจุบันไทยมีผู้สอบบัญชี 1 หมื่นคน สามารถลงนามตรวจสอบได้คนละ 200 ราย รวมกว่า 2 ล้านงบประมาณ ขณะที่มีคนทำบัญชี 6 หมื่นคน 11 คนทำได้ 100 งบประมาณ รวม 6 ล้านงบประมาณ ขณะนี้ในประเทศมี 6 แสนงบประมาณ ซึ่งแรงงานมีความเพียงพอ ไม่ขาดแคลน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปลดล็อกให้คนต่างชาติทำ
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ปลัดกระทรวงแรงงาน นำข้อเสนอของ 3 สภาวิชาชีพ กลับมาทบทวนในที่ประชุมอีกครั้ง ก่อน เสนอต่อที่คณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวกลางเดือนมิถุนายนนี้
ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้แถลงข่าวไม่เห็นด้วยกรณีกระทรวงแรงงานจะประกาศให้คนต่างด้าวทำอาชีพวิศวกรรมโยธาได้ โดยอ้างว่าเพื่อบรรเทาการขาดแคลนแรงงานซึ่งจะประกาศเป็นกฏกระทรวงและประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 มิถุนายน 2561
โดยทางวสท.ย้ำว่าจะเกิดความเสียหายอย่างยิ่งต่อชีวิตความปลอดภัยของประชาชน เศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ไม่มีประเทศไหนในโลกที่จะปล่อยให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานด้านวิศวกรรมโยธาของประเทศตน วสท.ขอเสนอแนะสิ่งที่ถูกต้องแก่กระทรวงแรงงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศไทย
