Business

แก้ Painpoint เสียเงินโฆษณาแต่ไม่เห็นผล ส่งโมเดลคิดค่าบริการตามยอดขายลดความเสี่ยง

“ทุกวันนี้ การโฆษณาในรูปแบบเดิมๆ จะคิดค่าบริการจากการทำแผนกลยุทธ์ ค่าครีเอทีฟ และค่าธรรมเนียมจากการลงมีเดียต่างๆ โดยไม่มีการการันตีเป็นยอดขาย ซึ่งหลังจากแคมเปญจบไปแล้ว แบรนด์สามารถขายของได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่แบรนด์ต้องรับความเสี่ยงไปเต็มๆ”นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ จำกัด กล่าว

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ จำกัด 3
ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์

ดังนั้น จึงทำให้เห็นว่า ความเสี่ยงที่เจ้าของสินค้าหรือแบรนด์ต้องแบกรับ จากการเสียเงินโฆษณาแล้วไม่รู้ว่าจะได้ยอดขายกลับมาหรือไม่ กลายเป็น Painpoint หรือความปวดใจที่ต้องการวิธีแก้ไขเยียวยา ซึ่ง วายดีเอ็มฯ มองเห็นปัญหานี้ และพัฒนาโมเดลใหม่ของการทำโฆษณาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

นั่นคือ การพัฒนาโมเดล“Revenue Sharing” ที่เปลี่ยนจากการจ่ายค่าบริการต่างๆ ที่เดิมต้องจ่ายก่อน มาเป็นการจ่ายโดยคิดตามส่วนแบ่งจากยอดขายที่เกิดขึ้นจริงแทน

ที่สำคัญคือ โมเดลนี้จะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในเรื่องงบประมาณการทำการตลาดอีกต่อไป พูดง่ายๆ ก็คือ “ยอดขายน้อยจ่ายน้อย ยอดขายมากจ่ายมาก” จึงถือว่าเป็นโมเดลที่วิน-วิน ทุกฝ่าย

เมื่อถามถึงเหตุผลว่า ทำไม วายดีเอ็มฯ ถึงกล้าเสนอโมเดลเก็บเงินโฆษณาตามยอดขายที่เกิดจริง นายธนพลเล่าว่า เพราะความเชื่อมั่นว่าวายดีเอ็มฯ แข็งแกร่งในเรื่องการทำการตลาดแบบเน้นผลลัพธ์อยู่แล้ว โดยทุกๆ โซลูชั่นส์ที่เสนอให้ลูกค้าจะเน้นการคำนึงถึงผลตอบแทนของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงมีความพร้อมในการทำการตลาดเกือบทุกรูปแบบ เพราะมีบริษัทในเครือถึง 9 บริษัท อาทิ เอฟซีบี แบงคอก และ นวิน คอนซัลแทนต์ ที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ การทำแบรนด์คอมมูนิเคชั่น การวางแผนสื่อโฆษณา รวมถึงการออกแบบสร้างสรรค์และการผลิตสื่อต่างๆ, แอดยิ้ม ให้บริการด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งครบวงจร, ก็อตติไมซ์ เชี่ยวชาญด้านการวางแผนและการซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์,  แจ่มจรัส ให้บริการด้านการทำการตลาดภูธรแบบครบวงจร เป็นต้น

www.buyzabuy

“ทั้ง 9 บริษัทในเครือของเราจะทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนา มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ที่สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้าอย่างแท้จริง”นายธนพลกล่าว

อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า การคิดค่าบริการตามยอดขาย ถือว่าบริษัทต้องแบกรับความเสี่ยงไว้พอสมควร เพราะต้องลงทุนทั้งบุคคลากร และค่ามีเดีย ในการทำการตลาด ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องเลือกลูกค้าอย่างระมัดระวัง โดยพิจารณาจากสินค้าที่ดี มีคุณภาพ เจ้าของสินค้าพร้อมให้ความร่วมมือกับ และ ทำงานร่วมกันในลักษณะของพาร์ทเนอร์ที่พร้อมจะลุยและเปิดใจให้กับการวิธีการทำการตลาดใหม่ๆ

นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาระบบอี-คอมเมิร์ซ ภายใต้ชื่อ BuyZabuy.com ขึ้นพื่อให้แบรนด์นำสินค้ามาวางจำหน่าย และสามารถแทรกดูยอดขายที่เป็นผลจากการทำการตลาดของทางวายดีเอ็มฯได้ โดยแบรนด์จะทำหน้าที่เพียงแค่จัดส่งสินค้าเท่านั้น ขณะที่ วายดีเอ็มฯจะเป็นคนทำการตลาดและโฆษณาให้ทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ยังพัฒนาระบบพันธมิตรที่ชื่อว่า SellZabuy.com เพื่อให้กลุ่มนักการตลาดดิจิทัล และอินฟลูเอนเซอร์ในเครือข่ายวายดีเอ็มฯ ที่มีกว่าหมื่นคน เข้ามาช่วยโปรโมทสินค้าให้ลูกค้า และจะได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายที่เกิดขึ้นจริงด้วย ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่ง

จากกลยุทธ์ที่วางไว้ มั่นใจว่า เป้าหมายปีนี้ที่ตั้งไว้ 850 ล้านบาท ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

Avatar photo