ชาติพันธมิตรของสหรัฐ ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี7) ประกาศที่จะตอบโต้กลับการตัดสินใจของกรุงวอชิงตัน ในเรื่องการจัดเก็บภาษีทุ่มตลาดต่อเหล็ก และอลูมิเนียมที่ส่งออกไป ชี้เป็นพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ความขัดแย้งทางการค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐ กับชาติพันธมิตรหลักๆ หลายประเทศ มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นประเด็นหลักในการประชุมรัฐมนตรีคลัง และผู้ว่าการธนาคารกลาง กลุ่มจี 7 กำหนด 3 วัน ที่แคนาดา และจะทำให้นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ตกเป็นเป้าที่จะต้องรับเรื่องการตอบโต้ และโดนล็อบบี้อย่างมาก
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (31 พ.ค.) สหรัฐประกาศจัดเก็บภาษีทุ่มตลาด 25% และ 10% ต่อเหล็ก และอลูมิเนียมนำเข้า โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันเดียวกัน ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 11.00 น วันนี้ (1 มิ.ย.)ตามเวลาในไทย
นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส เรียกร้องที่จะให้มีการยกเลิกอย่างถาวรต่อการจัดเก็บภาษีดังกล่าว และว่า สหภาพยุโรป (อียู) อาจจะใช้มาตรการของตัวเองตอบโต้ในเรื่องนี้
“การตัดสินใจเรื่องภาษีของสหรัฐ เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม และไร้เหตุผล ซึ่งจะกลายเป็นอันตรายต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก”
ขณะที่นายโอลาฟ โชลซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเยอรมนี ระบุว่า จี7 จะแสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และอธิปไตยของตัวเอง ด้วยการแสดงออกในทิศทางที่มีการตัดสินใจร่วมกัน
“การตอบโต้ของเราจะชัดเจน เข้มแข็ง และฉลาด”
