ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงในวันนี้ (22พ.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังมีรายงานข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐอาจพิจารณาคว่ำบาตรบริษัทจีนรายอื่นๆ อีก ทั้งนักลงทุนยังรอดูรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด มินิท ครั้งล่าสุดด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวล่าสุด ลดลง 75.96 จุด หรือ 0.29% มาอยู่ที่ 25,801.37 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับลงมา 6.39 จุด หรือ 0.22% ที่ 2,857.97 จุด และดัชนีแนสแด็กลดลง 23.93จุด หรือ 0.31% ที่ 7,761.79 จุด
หลังจากที่ตลาดคลายความวิตกเรื่องการค้า จากการที่รัฐบาลวอชิงตันตัดสินใจเลื่อนระยะเวลาที่จะคว่ำบาตร “หัวเว่ย เทคโนโลยีส์” ออกไปจนถึงวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ตลาดก็กลับมากังวลอีกครั้ง กับรายงานที่ว่า รัฐบาลสหรัฐมีแนวโน้มที่จะดำเนินการคว่ำบาตรแบบเดียวกันนี้กับไฮค์วิชัน ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดจีน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า สถานการณ์ที่ไร้ความแน่นอนนี้ ทำให้นักลงทุนอยากที่จะอยู่นิ่งๆ เพื่อความปลอดภัย แม้จะมีความเชื่ออยู่บ้างก็ตามว่า จะเกิดข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนขึ้นมาได้
การตอบโต้กันไปมาระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจของโลก ยังทำให้นักลงทุนเต็มไปด้วยความระมัดระวังตัว ทั้งตลาดยังโดนแรงกดดันจากราคาหุ้นควอลคอมม์ ที่ดิ่งลงมาถึง 10.6% จนกลายเป็นตัวฉุดให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลง
ราคาหุ้นควอลคอมม์ร่วงลง หลังศาลรัฐบาลกลางมีคำตัดสินว่าผู้ผลิตชิพรายนี้ ทำลายการแข่งขันในตลาดชิพสมาร์ทโฟน ด้วยการข่มขู่ที่จะยกเลิกการจัดหา และคิดค่าลิขสิทธิ์ในอัตราที่สูงอย่างมาก
ในวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังมีกำหนดที่จะเผยแพร้รายงานการประชุมครั้งล่าสุด เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนพากันรอดูรายละเอียดของการประชุม เพื่อวิเคราะห์ถึงท่าทีของเฟดในอนาคตอย่างละเอียด
