กระแสความคลั่งไคล้แมวที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วเอเชีย ด้วยจำนวนผู้ที่พักอาศัยอยู่ตามคอนโดมิเนียม นิยมเลี้ยงสัตว์ชนิดนี้มากขึ้นนั้น ทำให้บรรดาบริษัทผลิตภัณฑ์ และบริการสำหรับสัตว์เลี้ยง พากันเร่งทำเงินจากเรื่องนี้
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียน รีวิว รายงานอ้างการคาดการณ์ของยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทวิจัยตลาดของอังกฤษ ที่ว่า ยอดขายอาหารแมวในจีน จะพุ่งขึ้นถึง 1,800ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2565 แซงหน้าญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศแรกๆ ที่เกิดกระแสคลั่งไคล้แแมว
ขณะที่อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซจีน ระบุว่า ยอดขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแมวบนเว็บไซต์ขายของออนไลน์เถาเป่าอยู่ที่ 8,400 ล้านหยวนเมื่อปีที่แล้ว โดยสินค้าขายดีอันดับ 1 คือ ถุงมือแปรงขน
โฆษกของบริษัทบอกด้วยว่า บรรดาคนรักแมวในจีนมักเป็นคนหนุ่มสาวที่เกิดในช่วงทศวรรษ 80 และ 90 อาศัยอยู่ในเขตเมือง ส่วนลี ชี่ อุง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส จากมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ มอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวว่า ชาวเมืองที่มีฐานะมั่งคั่งของจีน มักเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน
ทั้งนี้ แมวกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากขึ้น จากการที่ผู้คนในเอเชียพากันย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง และมีฐานะร่ำรวยมากขึ้น
ตัวแทนจากมูร์นิ เอคสโป ผู้จัดการ “แคท เอ็กซ์โป” เมื่อปลายปีที่แล้วในมาเลเซีย ระบุว่า แมวถือเป็นสัตว์เลี้ยงในอุดมคติของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีอากาศร้อนชื้น เพราะพวกมันสามารถอยู่ในบ้านที่ติดเครื่องปรับอากาศได้
ในการจัดงานดังกล่าว มีบริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์ และบริการเกี่ยวกับแมว พากันมาเปิดบูธในงานอย่างคับคั่ง และมีผู้เช้าเยี่ยมชมงานที่จัดขึ้น 3 วัน ราว 20,000 คน
ตัวแทนรายนี้ บอกว่า งานแสดงสินค้าแบบนี้เพิ่งเกิดขึ้นในมาเลเซียเป็นครั้งแรก และว่าบริษัทจะเดินหน้าจัดงานนี้ต่อไปทุกปี
ผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่น ก็มองเห็นโอกาสเติบโตในเอเชียเช่นเดียวกัน
“อินาบะ เพ็ทฟูด” บริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงญี่ปุ่น ได้เข้ามาลงทุนในไทย และจีน เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง สำหรับตลาดญี่ปุ่น ทั้งยังวางแผนที่จะขยายเข้าไปยังประเทศอื่นไนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
เช่นเดียวกับ “โนอาแฟมิลี” ผู้ออกแบบ และขายสินค้าเกี่ยวกับแมว ที่มีฐานการดำเนินงานอยู่ที่เมืองมัตสึยามะ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ก็ได้เปิดร้านแฟรนไชส์ขึ้นเป็นแห่งแรกในไต้หวัน เมื่อปี 2560 และมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนร้านค้าบนดินแดนนี้อีก 10 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้
