Politics

‘ศึกนอก-ศึกใน’ ปชป. กดดัน ‘จุรินทร์’ ร่วมรัฐบาล

อาการซวนเซท่ามกลางความอ่อนแอของพรรคการเมืองเวลานี้ คงต้องยกให้“พรรคประชาธิปัตย์” หลังรู้ผลการเลือกตั้งเมื่อครั้งที่ผ่านมา ถึงกับต้องสังเวยหัวหน้าพรรคอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยเหตุผล “การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอันดับที่นั่ง หรือไม่ว่าจะเป็นในเรื่องจำนวนที่นั่ง พร้อมขอโทษผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ที่ไม่สามารถผลักดันแนวคิดให้ประสบความสำเร็จ ในการเลือกตั้งได้ ขออภัยเพื่อนๆร่วมอุดมการณ์หลายคน ซึ่งเป็นผู้ที่ตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเป็นนักการเมืองคุณภาพ”

การลาออกจากหัวหน้าพรรคของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ หยุดนิ่งเพื่อเดินไปข้างหน้าได้ ยังมีปัญหารุมเร้าอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนในพรรค หรือแม้แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในพรรคแล้วก็ตาม กระแสกดดันพรรคประชาธิปัตย์มีมาอย่างต่อเนื่อง

แม้กระทั่งการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ขึ้นมาแทน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  มีผู้ท้าชิงถึง 4 คน เรียกว่า“ห้ำหั่น”กันน่าดูในการหาเสียง บางคนบอกว่ายิ่งกว่าการเลือกตั้งใหญ่เสียอีก แต่ด้วยธรรมเนียมของพรรคประชาธิปัตย์ ย่อมเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันได้เป็นธรรมดา

 

60301189 2785836814776348 5372654940814573568 n

การแข่งขันเพื่อหาคนมาทำหน้าที่หัวหน้า เกิดปัญหาภายในขึ้นมากมาย กองเชียร์แต่ละกลุ่มมีสรรพกำลังที่ต่างกัน ผลที่ออกมาเรียกว่า “หืดจับ” ใครจะคิดว่าคู่แข่งสำคัญของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ คือ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ได้รับแรงสนับสนุนจาก “นายหัวเก่า” แห่งประชาธิปัตย์ผสมกับคนในพรรคบางส่วน เทคะแนนให้แบบหวังเอาชนะให้ได้

 

แต่ด้วยแรงเชียร์จากผู้หลักผู้ใหญ่สายใต้ของพรรคประชาธิปัตย์เอง ทำให้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ชนะแบบไม่ทิ้งห่างสักเท่าไหร่สำหรับในสัดส่วน สส.ใหม่ มีเพียงคะแนนจากกลุ่มอื่นๆ ที่ทำให้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทิ้งห่าง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อย่างที่เห็น

แต่สุดท้ายก็เกิด “ดราม่า” ขึ้นมาหลังโหวตเลือกหัวหน้าพรรคได้ไม่กี่วัน โดยเฉพาะ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค โพสต์ข้อความดุเดือด “สาวไส้” ร่ายยาวพาดพิงถึงผู้ใหญ่ของพรรคที่เคยหลงเคารพมานาน 30 ปี แต่สุดท้ายเป็น “แค่ภาพลวงตา” 

จึงไม่แปลกใจที่ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึง “ร้าวลึก” เวลานี้ ยิ่งการเลือกตั้งรอบนี้ที่ไม่ปกติธรรมดา โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาล ยิ่งเป็น“ชนวน” สร้างความแตกร้าวยิ่งขึ้น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์แตกเป็น 2 ขั้วชัดเจน

ขั้วแรกอยากร่วมรัฐบาล ซึ่งมีพลังทั้งคนภายในพรรค และผู้มากบารมีนอกพรรค ที่คอยกระทุ้งให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล เพียงเพื่อต้องการเพิ่มเสียงให้กับพรรคพลังประชารัฐและเข็นลุงตู่นั่งนายกรัฐมนตรี แถมยกเสียงอ้างจากประชาชนว่าต้องการให้ประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล

ขั้วที่สองไม่อยากร่วมรัฐบาลลุงตู่ เพราะต้องการรักษาสัจจะที่ประกาศไว้ว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนเก่าแก่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่กุมหลักการไว้เหนียวแน่น แต่จากนี้ไปจะแน่นได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับพลังของคนในพรรคด้วยกัน

สถานการณ์วันนี้แรงกดดันจึงอยู่ที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ว่าจะตัดสินใจนำพาพรรคประชาธิปัตย์ไปทางไหน การเข้าร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐใช่คำตอบสุดท้ายหรือไม่ หรือถอยฉากออกไปเป็นพรรคฝ่ายค้านอิสระ หรือหันไปจับมือกับพรรคขนาดกลางอย่างพรรคภูมิใจไทย ตั้งรัฐบาลแบบขั้วที่ 3 อย่างที่มีเสียงเล็ดลอดออกมาหรือไม่อย่างไร

จุรินทร์88
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

ฉะนั้นท่ามกลางความง่อนแง่นเสียงปริ่มน้ำ ในการจัดตั้งรัฐบาลของพลังประชารัฐ คือแรงบีบคั้นทั่วสารทิศไปยังพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อส่งผ่านไปยัง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่จะให้ตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร “ยอมหักตั้งแต่วันนี้” หรือจะ “ยอมงอ” เพื่อเป็น “พระรอง” ในรัฐบาลลุงตู่ ทั้งหมดจะตกเป็นภาระของ  จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ต้องแบกรับ

แน่นอนหาก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เลือกที่จะไม่เข้าร่วมรัฐบาล จะด้วยเหตุผลใดก็ตามนั่นหมายถึง พรรคประชาธิปัตย์จะเกิดศึกใหญ่ ทั้งศึกภายใน และศึกภายนอก แต่ทว่าประชาธิปัตย์เลือกตัดสินใจร่วมรัฐบาล ก็จะเกิดศึกเช่นเดียวกัน ก็เพราะ เสียงในประชาธิปัตย์มันแตกเป็น 2 ส่วนมาแต่แรกอยู่แล้ว

มาถึงตอนนี้แล้วจะตัดสินใจยังไงก็ว่าไป อย่ามัวแต่ชักเข้า ชักออก เดี๋ยวคนที่อยากได้เก้าอี้รัฐมนตรีลงแดงตายเสียก่อน เพราะมัวแต่ยึกยัก

หากไม่ต้องการร่วมรัฐบาลก็ประกาศออกมาเลยให้ชัดๆ ไม่ต้องซื้อเวลา ปล่อยให้กรรมการชุดนั้นชุดนี้ตัดสินใจ เพราะถึงอย่างไรวันนี้พรรคก็แตกอยู่แล้ว!!

ยิ่งเห็น ชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคออกมาสะบัดมีดกรีด พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ โพสต์เฟสบุ๊กถึงผู้มากบารมีในเชิงลบ งานนี้เรียกว่า”เลือดสาด” ทีเดียว คำพูดของ ชวน หลีกภัย ทำให้เกิดความหวั่นไหวพอสมควร กับการตัดสินใจจะเข้าร่วมรัฐบาล  เพราะเนื้อหาที่ออกมาเกี่ยวโยงหลายส่วนทีเดียว ฉะนั้นงานนี้ยังต้องติดตามอย่างใก้ลชิด

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight