จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ในส่วนของตัวเลขมูลค่าการชำระเงินผ่าน E-payment บนมือถือของเดือนธันวาคม 2559 พบว่าอยู่ที่ 584,710 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2560 ตัวเลขเพิ่มมากขึ้นถึง 1 เท่าตัวเป็น 1,046,080 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดเจน และสะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมการชำระเงินของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
แต่ในยุคที่ทุกธุรกิจพยายามมุ่งสู่อีคอมเมิร์ซ และโซเชียล คอมเมิร์ซ (Social Commerce) ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีหลาย ๆ คนต้อง “ตกขบวน” ไม่สามารถล้อไปกับคลื่นความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างน่าเสียดาย โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก “การไม่มีตัวตนที่น่าเชื่อถือเพียงพอ” เพื่อยืนยันกับสถาบันการเงินในการเข้าใช้บริการทางการเงินต่าง ๆ
นั่นจึงนำไปสู่การเปิดตัวแพลตฟอร์ม GB Prime Pay ในฐานะผู้ให้บริการระบบรับชำระเงินออนไลน์แบบครบวงจรที่ต้องการโฟกัสไปยังกลุ่มผู้ค้าบน Social Commerce และ e-Commerce โดยเฉพาะ โดยนางสาวสศิรา อภิรัชเหมภาส กรรมการบริหารบริษัทโกลบอล ไพรม์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (Global Prime Corporation) เปิดเผยว่า ในการทำการค้านั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดคือระบบการชำระเงิน ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ค้าออนไลน์ที่ไม่มีเครื่องมือช่วยในการรับชำระเงินจะต้องเผชิญกับความยุ่งยากมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- การส่งรายละเอียดสินค้าให้กับลูกค้า
- การส่งรายละเอียดการโอนเงินให้กับลูกค้า
- การตรวจสอบยอดเงินว่าลูกค้าโอนเข้ามาแล้วหรือยัง
- การตรวจสอบว่ายอดเงินใดเป็นของลูกค้ารายใด
- การตรวจสอบว่าลูกค้ารายใดยังไม่ได้จ่ายเงินบ้าง
- การสอบถามที่อยู่ในการจัดส่ง
- การจัดส่งพัสดุ
- ฯลฯ
นอกจากนั้น โลก Social Commerce ยังมีความท้าทายในแง่ของยอดเงินใช้จ่ายที่จำกัด เนื่องจากผู้ค้าส่วนใหญ่ยังคงซื้อขายด้วยเงินสด ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้
นางสาวสศิรา จึงมองว่า การที่โซลูชัน GB Prime Pay พัฒนาให้รองรับการชำระด้วยบัตรเครดิต และ QR Code ได้นอกเหนือจากบัตรเดบิตนั้นเป็นโซลูชันที่ครบวงจร ซึ่งการใช้บริการทำได้โดย
- เข้ามาลงทะเบียนยืนยันตัวตนกับระบบให้เรียบร้อย
- จากนั้นสามารถล็อกอินเข้ามาในระบบ และสร้าง GB LINK ของสินค้าขึ้นมาได้แบบอัตโนมัติ โดยในลิงค์ดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะสำหรับสินค้าชนิดนั้น ๆ ในราคาที่กำหนดไว้
- ผู้ค้าออนไลน์สามารถส่งลิงค์ดังกล่าวให้กับลูกค้าได้เลย เมื่อลูกค้าคลิกเข้าไปจะพบขั้นตอนการชำระเงิน ซึ่งสามารถจ่ายได้ทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต และ QR Code
- เมื่อมีการชำระเงินเกิดขึ้น ระบบจะส่งแจ้งเตือนไปยังฝั่งผู้ขาย (กรณีนี้จะช่วยป้องกันการส่งสลิปปลอมได้) ให้ดำเนินการจัดส่งสินค้า โดยระบบจะจัดเตรียมข้อมูลที่อยู่ของลูกค้ามาพร้อมกันด้วย ผู้ค้าเพียงแค่ปรินท์ออกมาแปะที่กล่องพัสดุได้เลย ในส่วนนี้ช่วยให้จัดส่งสินค้าได้เร็วขึ้น
สำหรับที่มาของโซลูชันทั้งหมดนี้ นางสาวสศิรา เผยว่า มาจากการเดินสำรวจตลาดในย่านมาบุญครอง สยามสแควร์ ฯลฯ ซึ่งพบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่ที่ตั้งแผงขายในห้างสรรพสินค้านั้น ก็มีหน้าร้านบนโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน เหตุที่เปิดร้านออฟไลน์นั้น นอกจากจะทำเพื่อเพิ่มช่องทางขายแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะบนโลกออนไลน์รูดบัตรเครดิตไม่ได้ ถ้าอยากรูดบัตรเครดิตต้องมาซื้อของที่หน้าร้านเท่านั้น
“เราเห็นว่าตลาดนี้มีช่องว่างอยู่ สำหรับคนที่เข้าไม่ถึงโซลูชันทางการเงินเนื่องจากธนาคารมีหลักเกณฑ์ในการให้บริการค่อนข้างสูง ก็เลยเปิด GB Prime Pay นี้ขึ้นมา เพื่อเป็นแพลตฟอร์มกลางที่ช่วยตรวจสอบตัวตนของผู้ค้าออนไลน์ให้ รวมถึงรับชำระเงินบนมาตรฐานที่มีความปลอดภัย ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายมั่นใจมากขึ้น”
ทั้งนี้ หลังจากได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงดิจิทัลฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยให้ประกอบธุรกิจรับชำระเงินออนไลน์ได้อย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2560 ปัจจุบัน GB Prime Pay มีผู้ค้าใช้บริการกว่า 500 ราย และมีเงินหมุนเวียนในระบบวันละกว่า 10 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ค้าขึ้นอีก 1 เท่าตัวภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าเงินหมุนเวียนในระบบไว้ที่ 30 ล้านบาทต่อวันด้วย
