Politics

ศาลฏีกาฯสั่งยึดทรัพย์ ‘หมอโด่ง’ อดีตเลขาฯ ‘บุญทรง’ เกือบ 900 ล้าน

ศาลฎีกานักการเมือง สั่งยึดทรัพย์ “วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ” อดีตเลขาฯ “บุญทรง” จำเลยร่วมระบายข้าวจีทูจี ซุกบัญชีอดีตเมีย-ลูก-ญาติ รวม 7 รายการ เกือบ 900 ล้านบาท 

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีริบทรัพย์ หมายเลขดำ อม. 282/2560 พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ หรือ”หมอโด่ง” จำเลยร่วมคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี  อดีตเลขานุการของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ จำนวน 896,554,760.28 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน

ข้าว

ศาลฎีกาฯ ได้ประกาศคำร้องของอัยการสูงสุด ในคดีริบทรัพย์นี้ในที่เปิดเผยแล้ว พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหา และผู้มีชื่อครอบครองทรัพย์สินนั้นไม่ยื่นคำคัดค้าน และไม่ประสงค์คัดค้านคำร้อง วันนี้ฝ่ายอัยการสูงสุด มีผู้แทนมาร่วมฟังคำพิพากษา ส่วนฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาและครอบครัวไม่มีใครมาศาล คงมีเพียงทนายความรับมอบอำนาจมาฟังคำสั่งศาลเท่านั้น

ศาลฎีกาฯ พิเคราะห์พยานหลักฐานตามคำร้องของอัยการสูงสุด และตามทางไต่สวนประกอบรายงานของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว เห็นว่าบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินที่พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหายื่นไว้ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ขณะดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วยที่ดิน , รถยนต์ , หลักทรัพย์ และบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ  ผู้ถูกกล่าวหา , ญาติและคนสนิทของผู้ถูกกล่าวหา มีมูลค่าสูงไม่สอดคล้องกับรายได้ที่มีอยู่ ซึ่งบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญให้เป็นภาระของพ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหา ต้องพิสูจน์ว่าทรัพย์สินที่ได้มานั้นเป็นทรัพย์สินที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือไม่มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ

 

51 8
ภาพมติชน :วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ

แต่พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาพิสูจน์ ศาลจึงฟังพยานของอัยการสูงสุด ผู้ร้อง และหลักฐานของ ป.ป.ช. เห็นว่า ทรัพย์สินทุกรายการตามฟ้องเป็นทรัพย์สินของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ซึ่งได้มาจากพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติตามหลักฐานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.รวบรวมมา

องค์คณะผู้พิพากษา จึงพิพากษาว่า ทรัพย์สินตามคำร้องนั้น เป็นทรัพย์สินที่ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหามีเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ อันเป็นการร่ำรวยผิดปกติ จึงให้ทรัพย์สินดังกล่าวรวมมูลค่า 896,554,760.28 บาท พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน หากไม่อาจบังคับคดีเอาทรัพย์สินตามที่วินิจฉัยมาข้างต้นได้ทั้งหมด หรือได้แต่บางส่วน ให้บังคับคดีเอาทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในอายุความ 10 ปี แต่ต้องไม่เกินมูลค่าของทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 38, 80 ประกอบมาตรา 83

สำหรับทรัพย์สินที่ศาลให้ตกเป็นของแผ่นดิน ประกอบด้วย

1.บัญชีเงินฝากธนาคารชื่อ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหา 79,389,106.02 บาท

2.บัญชีเงินฝากชื่อ นางชุฏิมา อดีตภรรยา 367,313,172 บาท

3.บัญชีเงินฝากชื่อ น.ส.อรชุมา บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ  41,607,000 บาท

4.บัญชีเงินฝากชื่อนางอรณี มารดาผู้ถูกกล่าวหา  357,555,747 บาท

5.บัญชีเงินฝากชื่อ พล.ต.ต.วีระวัฒน์ บิดาผู้ถูกกล่าวหา 43,388,526.50 บาท

6.บัญชีเงินฝากชื่อนายสมาน ญาติมิ บิดาของอดีตภรรยา 5,901,267.90 บาท

7.บัญชีเงินฝากชื่อ น.ส.ชุตินันท์ หลานของอดีตภรรยา มูลค่า 1.4 ล้านบาท

สำหรับ พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ  หรือหมอโด่ง  ก็ตกเป็นจำเลยร่วมคดีกับนายบุญทรง ทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี แต่ระหว่างดำเนินคดี พ.ต.นพ.วีระวุฒิ  ได้หลบหนีไป ซึ่งศาลฎีกาฯ ได้ออกหมายจับให้ติดตามกลับมาดำเนินคดีไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ตัวมา กระทั่งเมื่อมีการแก้ไขกฎหมายใหม่ (วิ อม.) ให้ศาลพิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลยได้ อัยการสูงสุด จึงได้ยื่นคำร้องขอให้นำคดีอาญาในส่วนของ “หมอโด่ง” ขึ้นมาพิจารณาใหม่โดยไม่มีตัวจำเลย

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight