ยักษ์ใหญ่สื่อสังคมออนไลน์ “เฟซบุ๊ก” ยืนฟ้อง “แรงก์เวฟ” บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเกาหลีใต้ บังคับให้อีกฝ่ายปฏิบัติตามเงื่อนไขในการใช้แอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม
เฟซบุ๊ก แถลงว่า ได้ยื่นฟ้องแรงก์เวฟ ต่อศาลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในซิลิคอน วัลเลย์ หลังจากที่ได้ดำเนินการตรวจสอบการจัดเก็บข้อมูลของแรงก์เวฟ ที่เกี่ยวกับการโฆษณา และทำการตลาด แต่บริษัทเกาหลีใต้รายนี้ ไม่ให้ความร่วมมือกับความพยายามที่จะยืนยันว่า บริษัทได้ดำเนินงานตามนโยบายต่างๆ ที่เฟซบุ๊กกำหนดไว้ให้กับนักพัฒนาที่ดำเนินงานบนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก
เจสซิกา โรเมโร ผู้อำนวยการฝ่ายแพลตฟอร์ม และกฎหมายของเฟซบุ๊ก ระบุว่า ในขณะนี้ บริษัทได้ระงับแอปพลิเคชัน และบัญชีที่เกี่ยวข้องกับแรงก์เวฟทั้งหมด พร้อมขอให้ศาลสั่งให้แรงก์เวฟ ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของบริษัทในเรื่องแอปพลิเคชันด้วย
“การยื่นฟ้องครั้งนี้ เป็นการส่งสารถึงนักพัฒนาทุกคนว่า เฟซบุ๊กจริงจังกับการปฏิบัติตามนโยบายของเรา รวมถึง การกำหนดให้นักพัฒนาทุกคนต้องให้ความร่วมมือกับเฟซบุ๊ก ระหว่างการตรวจสอบด้วย”
การเคลื่อนไหวข้างต้นยังเกิดขึ้นหลังเมื่อเดือนที่แล้ว เฟซบุ๊กระบุในรายงานผลประกอบการรายไตรมาสว่า กำไรของบริษัทได้รับผลกระทบจากการกันเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไว้สำหรับความเป็นไปได้ที่จะโดนสั่งปรับจากเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบสหรัฐ
เฟซบุ๊กประเมินว่า บริษัทอาจโดนคณะกรรมการการค้าสหรัฐ (เอฟทีซี) สั่งปรับประมาณ 3,000 – 5,000 ล้านดอลลาร์ในเรื่องการปฏิบัติต่อข้อมูลของผู้ใช้งาน และนำเรื่องนี้รวมเข้าไว้ในรายงานผลประกอบการของบริษัทได้
เมื่อปีที่แล้ว เอฟทีซีประกาศว่า ได้เปิดการสอบสวนเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่ ถึงความเป็นไปได้ที่บริษัทจะละเมิดข้อตกลงไกล่เกลี่ยเมื่อปี 2554 เกี่ยวกับการปฏิบัติในเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มบริษัท
