COLUMNISTS

ก้าวใหม่ประชาธิปัตย์ ก้าวต่อไปเพื่อประเทศชาติ และประชาชน

Avatar photo
14007

หลังนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 8 ต่อจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งครองตําแหน่งยาวนานเกือบ 14 ปี มีภารกิจสำคัญทั้งการฟื้นฟูพรรคจากความไม่สำเร็จในสนามเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา

60612481 10156002203226791 4458653357258571776 o

ทั้งยังมีความท้าทายเกี่ยวกับจุดยืนทางการเมืองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ที่ต้องเลือก ระหว่าง การร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ หรือการเป็นฝ่ายค้านอิสระ เพื่อสืบสานเส้นทางที่นายอภิสิทธิ์ได้สร้างเอาไว้เป็นทางเลือกที่ 3 ให้กับประเทศไทย เพื่อให้หลุดพ้นจากวังวนความขัดแย้งของการเลือกข้าง ระหว่างฝ่ายเอากับไม่เอาทักษิณ มาสู่การสร้างประชาธิปไตยสุจริต มุ่งที่การบริหารประเทศ เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชน

พูดง่ายๆ ว่าเปลี่ยนจากการสู้มาเป็นการสร้าง แม้แนวทางนี้จะไม่ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างที่คาดหวัง แต่ถือเป็นเส้นทางที่ประชาธิปัตย์ไม่ควรทอดทิ้ง

สมรภูมิการเมืองที่รออยู่ จึงเป็นงานหนักสำหรับนายจุรินทร์ ซึ่งต้องจับตาว่าจะใช้ความคร่ำหวอดในแวดวงการเมือง มากำหนดทิศทางประชาธิปัตย์อย่างไร

เพราะหากไหลตามกระแสกดดันให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ ก็เท่ากับว่าพรรคจะพลาดโอกาสในการออกจากร่มเงาทหารที่ถูกกล่าวหามาโดยตลอด และยังต้องทำงานการเมืองอยู่ใต้พรรคพลังประชารัฐ ที่มีกลไกการเมืองรองรับแบบบิดบิดเบี้ยว ทั้ง ส.ว.250 คนซึ่งมาจากการเลือกของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. เพื่อให้ส.ว.เหล่านั้นมาเลือกตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี  ทั้งยังไม่รวมข้อครหาเกี่ยวกับการควบคุมองค์กรอิสระแบบอยู่หมัด ทำให้บรรยากาศการเมืองเลวร้ายกว่ายุคทักษิณ

สิ่งเหล่านี้ จะกลายเป็นปัจจัยสั่งสม ความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลพลังประชารัฐที่จะถูกเขย่าตลอดเวลา ขณะที่ประชาธิปัตย์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม ยากที่จะหลุดพ้นความรับผิดชอบจากประวัติศาสตร์การเมืองหน้านี้ หากเลือกเดินทางร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ

44410835 10155601028231791 3790992083980910592 n

สำหรับผู้เขียนซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวประชาธิปัตย์ เห็นว่าความสำคัญที่สุดในการทำงานการเมืองคือ ต้องมั่นคงในเส้นทางตามอุดมการณ์ของพรรค สามารถตอบตัวเองได้อย่างมั่นใจ ว่าแนวทางที่เลือกล้วนเพื่อประเทศชาติ แม้ผลตอบรับจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวัง แต่ความเป็นพรรคการเมืองต้องเป็นหลักให้บ้านเมืองได้ ซึ่งผลลัพธ์อาจไม่เห็นกันในวันนี้ แต่ความถูกต้องไม่ว่าจะปรากฏให้เห็นในวันใดก็ยังคงเป็นความถูกต้องเสมอ

ในวันที่คนในพรรค มีความคิดที่แตกต่างกัน หัวหน้าพรรคคนใหม่ซึ่งกุมบังเหียน กำหนดทิศทางพรรค จะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการแสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยืนอยู่จุดใด มีตัวตนแบบไหน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องชี้วัดถึงความจำเป็นที่ต้องมีพรรคประชาธิปัตย์ในประเทศไทย  เป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเรื่องจำนวนส.ส.ที่จะได้ในอนาคต​

เมื่อตัวตนของประชาธิปัตย์ชัดเจนในสายตาประชาชนเราจะได้รับการสนับสนุนและกลับเข้าไปอยู่ในหัวใจประชาชนอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะก้าวใหม่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นของประชาธิปัตย์ จะเป็นก้าวต่อไปเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง