พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่าการประชุม กสทช. วันนี้ “เห็นชอบ” แนวปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (Must Carry) ว่า ให้ผู้รับอนุญาตโครงข่ายโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่(เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม) มีหน้าที่ต้องให้สมาชิกได้รับบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป (ทีวีดิจิทัล) ได้โดยตรงอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทําซ้ำ ดัดแปลง ผังรายการ หรือ เนื้อหารายการ
ทั้งนี้ เป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง “มัสต์แคร์รี่” และสอดคล้องกับคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อ.215/2557 ที่พิพากษาให้ประกาศ มัสต์ แคร์รี่ ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เนื่องจากประกาศ กสทช. ดังกล่าว ไม่ได้มีข้อจำกัดสิทธิของผู้มีสิทธิในงานอันมีลิขสิทธิ์แต่อย่างใด หากแต่วิธีการหรือช่องทางการเผยแพร่ดังกล่าวผู้มีสิทธิในงานอันมีลิขสิทธิ์ ก็ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย
ดังนั้น ผู้รับอนุญาตโครงข่ายโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ มีหน้าที่ต้องตรวจสอบ และควบคุมการออกอากาศช่องทีวีดิจิทัล ให้ออกอากาศเฉพาะในประเทศไทย
ทีวีดิจิทัลห้ามปิดกั้นโครงข่ายเคเบิล/ดาวเทียม
พ.อ.นที กล่าวว่าการพิจารณาแนวทางปฏิบัติตามประกาศ มัสต์แคร์รี่ ดังกล่าว เนื่องจากมีผู้ประกอบการโครงข่ายเคเบิล/ทีวีดาวเทียม 2-3 ราย สอบถามแนวทางปฏิบัติการออกอากาศช่องทีวีดิจิทัลเข้ามา เพราะช่วงที่ผ่านมาโครงข่ายฯ ได้รับการแจ้งจากช่องทีวีดิจิทัล ไม่ให้โครงข่ายเคเบิล/ทีวีดาวเทียม เผยแพร่บางรายการทางช่องทีวีดิจิทัล โดยระบุเรื่องลิขสิทธิ์ เช่น พระราชพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน มาร์เคิล ,การแข่งขันฟุตบอลรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก, การแข่งขันวอลเลย์บอล
จากการพิจารณาตามประกาศ มัสต์แคร์รี่ กสทช. ยืนยันว่า เนื้อหารายการที่ผ่านแพร่ผ่านทีวีดิจิทัล จะต้องนำเสนอผ่านโครงข่ายไม่ใช้คลื่นความถี่ หรือโครงข่ายเคเบิลและทีวีดาวเทียม โดยไม่มีการปิดกั้น และไม่มี “จอดำ” โดยช่องทีวีดิจิทัลต้องรู้หน้าที่ของช่องว่า การนำเสนอเนื้อหารายการใดก็ตามบนทีวีดิจิทัล ต้องถูกเผยแพร่บนโครงข่ายไม่ใช้คลื่นฯ ด้วยเช่นกัน
ขณะที่โครงข่ายไม่ใช้คลื่นฯ มีหน้าที่เผยแพร่รายการของช่องทีวีดิจิทัล โดยไม่ดัดแปลง ทำซ้ำ และต้องดูแลสัญญาณการออกอากาศเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น
“ทีวีดิจิทัล จะห้ามโครงข่ายไม่ใช้คลื่นฯ ออกอากาศบางรายการไม่ได้ เพราะโครงข่ายฯ มีหน้าที่ออกอากาศตามประกาศมัสต์แคร์รี่ และ ทีวีดิจิทัล ต้องรู้ด้วยว่ามีหน้าที่นำเสนอเนื้อหาในทุกช่องทาง”
เห็นชอบถ่ายทอดสดบอลโลก
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. “เห็นชอบ” กำหนดหลักการข้อยกเว้นของประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สําคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 (Must Have) ดังนี้
1.การถ่ายทอดสดรายการโทรทัศน์สำคัญที่ได้ออกอากาศผ่านทางโทรทัศน์เป็นการทั่วไป(ทีวีดิจิทัล)แล้ว และหากเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนสามารถดำเนินการได้ กล่าวคือ หาก 7 รายการกีฬาสำคัญ ได้นำเสนอทางทีวีดิจิทัลแล้ว สามารถเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นๆ ได้ด้วย
2.กรณีการถ่ายทอดสดรายการโทรทัศน์สำคัญภายใต้การให้บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป ในระบบความคมชัดที่แตกต่างจากมาตรฐานความคมชัดที่ได้รับอนุญาต เพื่อเพิ่มคุณภาพในการรับชมรายการโทรทัศน์สำคัญให้กับประชาชน จะต้องไม่กระทบต่อมาตรฐานการให้บริการโครงข่ายของให้ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ (MUX)
พ.อ.นที กล่าวว่าที่ประชุม กสทช. รับทราบการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ครบทั้ง 64 คู่ ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 15 กรกฏาคม 2561 ของบริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ผ่านทีวีดิจิทัล 3 ช่อง ได้แก่ ช่อง5 ,อมรินทร์ทีวี เอชดี และทรูโฟร์ยู เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศรับชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ได้เห็นชอบให้ ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดและเผยแพร่รายการซ้ำ รายการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ครบทั้ง 64 คู่ ผ่านโครงข่ายและช่องรายการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. ทั้งระบบดาวเทียม (Satellite) ระบบเคเบิล (Cable TV) และระบบไอพีทีวี (IPTV) โดยรายการแข่งขันจำนวน 56 คู่ ผ่านช่องรายการ True Sport HD 3 ในระบบเอชดี และช่องรายการ True 4K ในระบบ 4K (UHD: Ultra High Definition) และจำนวน 8 คู่ ถ่ายทอดสดผ่านช่องรายการ True Sport HD 2 ระบบเอชดี เพื่อเพิ่มทางเลือกการรับชมให้กับประชาชน นอกเหนือจากการรับชมผ่านโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป
เห็นชอบทรูโฟร์ยูยิงสดบอลโลก“เอชดี”
กรณี ทรูวิชั่นส์ ขอถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายระบบเอชดี ผ่านช่องทรูโฟร์ยู สามารถทำได้เฉพาะการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มคุณภาพในการรับชมรายการโทรทัศน์สำคัญให้กับประชาชน โดยต้องไม่กระทบต่อมาตรฐานการให้บริการโครงข่ายของให้ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ (MUX)
“การแข่งขันฟุตบอลโลก เป็นรายการที่มีค่าลิขสิทธิ์สูงมาก การนำมาเผยแพร่ให้ประชาชนรับชมโดยทั่วถึงโดยไม่มีค่าใช้จ่ายถือเป็นเรื่องที่ดี โดย กสทช.กำหนดหลักเกณฑ์ในช่วงของการถ่ายทอดสดไว้ชัดเจนทั้งการเพิ่มช่องทางและคุณภาพการรับชม ซึ่งจะใช้เป็นหลักการพิจารณาและอนุมัติในครั้งต่อไป”
สายการบินยิงสดบอลโลก
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า วันนี้ (30 พฤษภาคม) ที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณาวาระเรื่อง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขออนุญาตให้บริการเนื้อหารายการโทรทัศน์บนอากาศยาน โดยที่ประชุม กสทช. มีมติเห็นชอบให้ การบินไทย สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2018 บนเครื่องบินได้ โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตจาก กสทช. เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า การให้บริการเนื้อหารายการโทรทัศน์บนอากาศยานของการบินไทย เป็นกิจการที่ไม่ถือเป็นการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ตามมาตรา 7 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 จึงไม่จำเป็นต้องมาขอรับใบอนุญาตจาก กสทช.
พ.อ.นที กล่าวเพิ่มเติมว่าหลักการดังกล่าวใช้กับ “ทุกสายการบิน” ที่ต้องการให้บริการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก
