Business

จับตาประมูลพรีเมียร์ลีก ‘True Vision – PPTV’ คุ้มไหมที่จะลงทุน ?

ปิดฉากแล้วสำหรับศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018/2019 ที่ได้ลุ้นกันมันส์หยดจนถึงแมตซ์สุดท้ายกันเลย

เกมฟุตบอลจบแต่สิ่งที่ต้องจับตากันต่อไป นั่นคือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในเมืองไทยของ BeIN Sports ได้สิ้นสุดในปีนี้ แต่กลับยังไม่มีใครคว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดฤดูกาล 2019/2020 ที่กำลังจะมาถึงในเดือนสิงหาคม ดังนั้น จึงยังไม่ชัดเจนเลยว่า ต่อไปคนไทยจะได้ชมถ่ายทอดสดฟุตบอลอังกฤษผ่านช่องทางไหน ?

Facebook ชนะประมูลแต่ล้มดีล

ปัญหาเกิดจากก่อนหน้านี้ Facebook เป็นผู้ชนะประมูลถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกให้กับ 4 ประเทศในอาเซียน (ไทย ลาว เวียดนาม และกัมพูชา) ระหว่างฤดูกาล 2019/2020 – 2022/2023 สามารถชนะสื่อกีฬาชื่อดังอย่าง BeIn Sports หรือ Fox Sports ด้วยมูลค่า 200 ล้านปอนด์ หรือราว 8,800 ล้านบาท

เรื่องเหมือนจะจบด้วยดี คือ Facebook ได้สิทธิ์ แล้วค่อยนำมาขายต่อให้สื่อในไทยนำไปลงแพลตฟอร์มของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้ง True Vision และ PPTV36 ต้องการจะซื้ออยู่แล้ว  แต่ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะดีลนี้ของ Facebook กับ พรีเมียร์ลีก อยู่ดีๆ ก็ล้มไม่เป็นท่า ทำให้ต้องยุติการเจรจา ล้มดีล! เปิดประมูลใหม่อีกครั้ง ด้วยเวลาที่บีบมากๆ

จับตาประมูล

บทเรียนจาก CTH สื่อไทยจะกล้าสี่ยงเข้าประมูลไหม ?

ขณะเดียวกัน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีสื่อระดับโลกเข้ามารับช่วงต่อจาก Facebook คำถามคือหรือสื่อยักษ์ใหญ่ในไทย จะตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์ด้วยตัวเอง เพราะเดิม True Vision ก็ใช้โมเดลนี้ ประมูลสิทธิ์ถ่ายทอดสดด้วยตัวเองมานานนับสิบปี ก่อนที่จะเสียสิทธิ์ให้ CTH ไปเมื่อปี 2013/2014

CTH ซื้อลิขสิทธิ์ช่วงปี 2013/2014, 2014/2015 และ 2015/2016 ด้วยเงินสูงถึง 5,000 ล้านบาท มากกว่าที่ True Vision เคยจ่าย 4 – 5 เท่า แต่นั่นกลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ CTH เพราะขาดทุนย่อยยับ จนต้องยุติกิจการไปในที่สุด

บทเรียนนี้ ทำให้สื่อไทยที่คิดจะประมูลพรีเมียร์ลีกมาครอบครอง คงต้องคิดหนักถ้าจะเสี่ยงด้วยตัวเอง เพราะราคาประมูลกระโดดไปไกลมากแล้ว

True Vision – PPTV จะเดินเกมนี้ยังไง ?

ถ้าไม่มีสื่อเมืองนอกประมูลจริงๆ ทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดคงหนีไม่พ้น True Vision เพราะด้วยศักยภาพและประสบการณ์อันยาวนาน ที่สำคัญฟุตบอลเป็นคอนเทนต์แม่เหล็กที่พวกเขาขาดไม่ได้ หากต้องการขยายฐานสมาชิก

ปัจจัยคงเป็นเรื่องราคา หากสูงจนเกินไป อาจไม่คุ้มลงทุนและยากที่จะเสี่ยง เพราะถึงภาพรวมผลประกอบการกลุ่ม TRUE จะมีกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ถ้านับเฉพาะ True Vision ยังขาดทุนอยู่

ผลประกอบการย้อนหลัง 01

ผลประกอบการย้อนหลังบริษัท ทรูวิชั่นส์ เคเบิ้ล จำกัด (มหาชน)

ปี 2558 รายได้ 143.70 ล้านบาท ขาดทุน 155.15 ล้านบาท

ปี 2559 รายได้ 97.01 ล้านบาท ขาดทุน 55.48 ล้านบาท

ปี 2560 รายได้ 78.37 ล้านบาท ขาดทุน 49.52 ล้านบาท

(ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า)

มองมาที่ PPTV ผู้เคยได้สิทธิ์ถ่ายทอดแมตซ์สำคัญๆ ผ่านทางฟรีทีวี และวางงบปี 2562 ไว้ 2,000 ล้านบาท สำหรับซื้อคอนเทนต์กีฬา โดยพรีเมียร์ลีกก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายนั้น อย่างไรก็ตาม ค่อนข้างชัวร์แล้วว่า PPTV ไม่ประมูลเองทั้งหมดแน่นอน แต่คงเน้นซื้อบางแมตซ์เหมือนที่เคยทำ อีกกรณีที่เป็นไปได้ คือการร่วมลงทุนด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์ในแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นไปได้เช่นกันที่ True Vision และ PPTV จะร่วมมือกัน สุดท้ายคงต้องลุ้นต่อไปว่าในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ คนไทยจะได้รับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในช่องทางไหนกับแพลตฟอร์มใดบ้าง  

Avatar photo